รหัสแพ็คเกจ EUR_38
นำล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเบลด ที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ (Bohinj Glacier) ในยุคน้ำแข็ง เที่ยวชมเมืองเก่า จัตุรัสมหาวิหารเซนต์สตีเฟน โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปี เข้าสู่อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) เที่ยวชมเมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik) เมืองดูบรอฟนิกเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานามไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก
21.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 4 เคาน์เตอร์ D16-19 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านกระเป๋าและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก
หมายเหตุ ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ 15 วันก่อนการเดินทาง โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน,เช่ารถโค้ช,จองโรงแรมที่พัก,ร้านอาหาร ตลอดจนสถานที่เข้าชมต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับกรุ๊ปทัวร์ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันสุดวิสัย อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน,การล่าช้าของสายการบิน,การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน),การนัดหยุดงาน,การก่อการจลาจล,ภัยธรรมชาติ รวมถึงการถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเป็นผลทำให้การเดินทางล่าช้า หรือ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ตามโปรแกรม หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ท่านได้ชำระมาแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้มีการตกลงชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ มิอาจรับผิดชอบได้
00.50 น. ออกเดินทางสู่นครมิวนิค โดยการบินไทยเที่ยวบินที่ TG924
06.45 น. ถึงสนามบินนครมิวนิค ประเทศเยอรมัน ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จากนั้น นำคณะออกเดินทางสู่เมืองเบลด (Bled) เมืองตากอากาศตั้งอยู่ริมทะเลสาบและริมเทือกเขาแอลป์จูเลียน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย และได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.00 น. นำล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเบลด ตัวทะเลสาบเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ (Bohinj Glacier) ในยุคน้ำแข็ง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือน้ำในทะเลสาบ ไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่มาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง น้ำในทะเลสาบนี้จึงใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว เรือล่องผ่านปราสาทเบลด (Bled Castle) ที่ตั้งอยู่บนริมผาติดทะเลสาบ เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด จักรพรรดิ์เฮนริคที่ 2 แห่งเยอรมัน ยกให้เป็นสถานที่พักของ บิชอป อัล เบี่ยม แห่งบริเซน (Bishop Albium of Brixen) ในปี ค.ศ. 1004 แล้วนำคณะเดินทางไปเที่ยวชม ถ้ำโพสทอยน่า เปิดให้บริการมากว่า 188 ปี และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 31 ล้านคน เป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป ภายในถ้ำเชื่อมต่อถึงกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร เข้าชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปี 1884 อุณหภูมิภายในถ้ำโดยเฉลี่ย 8-10 องศาเซลเซียส ชมส่วนที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำที่เรียกว่า Classic Karst ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่างๆ ภายในถ้ำมากมายลดหลั่นเป็นชั้นๆ ราวกับเนรมิต
17.00 น. เดินทางสู่กรุงลูบลิยานา (Ljubljana) เมืองหลวงที่สวยงามของสโลเวเนีย เข้าสู่จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน เป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรม มีรูปปั้นของฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลวีเนีย เป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ ใกล้จัตุรัสเป็นโบสถ์ในนิกายฟรานเซสกัน ศิลปะในแบบอาร์ตนูโว
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU PLAZA HOTEL, LJUBLJANA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำคณะออกเดินทางสู่นครซาเกรบ ศูนย์กลางการปกครองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศโครเอเชีย
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำคณะเที่ยวชมเมืองเก่าเริ่มต้นเดินทัวร์จาก จัตุรัสมหาวิหารเซนต์สตีเฟน โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปี เห็นได้จากทุกมุมของเมือง หลังจากถูกกองทัพมองโกลทำลายในคริสต์ศตวรรษที่ 13 และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปีค.ศ.1880 ก็ได้รับการซ่อมแซมใหม่ให้เป็นรูปแบบนิโอกอธิคดังที่เห็นในปัจจุบัน ชมตลาดโดแลค ตลาดกลางแจ้งที่กล่าวกันว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป, ประตูเมืองเก่าสโตนเกท ประตูเมืองที่ยังหลงเหลืออยู่มีรูปพระแม่มารีรอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1731 เชื่อกันว่าเกิดจากปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์ เข้าสู่จัตุรัสมหาวิหารเซนต์มาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าซาเกรบ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 13 หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีต่างๆ ซึ่งเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของซาเกรบ โครเอเชีย สลาโวเนีย และดาลมาเชีย รอบจัตุรัสเรียงรายไปด้วยทำเนียบประธานาธิบดีและรัฐสภา บันทึกภาพแบบพาโนรามาที่จุดชมวิวตัวเมืองเก่าเขตอัพเพอร์ทาวน์ ติดกันเป็นโบสถ์เซนต์แคทเทอรีน ที่ชาวเมืองนิยมมาประกอบพิธีสมรส แล้วนั่งรถรางสู่โลเวอร์ทาวน์ เขตชุมชนย่านใจกลางเมือง มีจัตุรัสเยลาซิค เป็นย่านการค้าและศูนย์กลางของเมือง อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งอันทันสมัยของคนเมือง ร้านค้า และร้านขายของที่ระลึกเรียงราย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON HOTEL ZAGREB หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่เมืองพลิตวิเซ่ (Plitvice) แห่งแคว้น Istria & Kvarner ระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติ และความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับทุ่งหญ้า ฟาร์มการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเข้าสู่อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ตั้งอยู่ในกลางของประเทศถูกค้นพบขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1949 เดินชมธรรมชาติไปตามทางเท้าในส่วน Lower lake ที่จัดไว้เป็นสัดส่วน ลัดเลาะไปตามทะเลสาบและน้ำตกที่สูงตระหง่าน เป็นอุทยานธารสวรรค์ตามธรรมชาติแห่งยุโรป พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำ มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้ารวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา บางช่วงเป็นน้ำตกแบ่งเป็น 2 ระดับ น้ำตกที่สูงที่สุดมีความสูง 639 เมตร ที่ต่ำสุดมีความสูง 503 เมตร
**หมายเหตุ ในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคมของทุกปี ทางอุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่จะงดให้บริการเรือล่องทะเลสาบและรถไฟ Panoramic Train**
ได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางสู่เมืองซาดาร์ (Zadar) อดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ที่นี่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยโรมันอีกด้วย นอกจากนี้แล้วเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวเรือที่มาค้าขายในแถบนี้ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางทางค้าขายมาตั้งแต่สมัยอดีต
19.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก FALKENSTEINER HOTEL & SPA IADERA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำคณะเดินทางสู่เมืองซีบีนิก (Sibenik) ซึ่งถูกบันทึกในเอกสารตั้งแต่ ค.ศ. 1066 ในชื่อแคสทรัม ซีบีนิซี (Castrum Sebenici) เติบโตจากอิทธิพลภายใต้การปกครองของ ฮังกาเรียน-โครแอตรวมถึงเวเนเชียน ให้ท่านได้ถ่ายรูปของหมู่บ้าน พรีโมสทีน (Premosten) ที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมยื่นออกไปในทะเลอาเดรียติก ถึงซีบีนิก นำชมสถานที่สำคัญที่สุดของเมืองคือ มหาวิหารเซนต์เจมส์ สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1431-1535 เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่าง 3 ศิลปกรรม คือ ดัลเมเชียน (ท้องถิ่น), ศิลปะทางเหนือของอิตาลีและทัสคานี สถาปนิคทั้ง 3 ท่านได้ใช้เทคนิคชั้นสูงในการสร้างห้องโถงสูงใหญ่ และโดมครึ่งวงกลม ทั้งวิหารล้วนสร้างด้วยหินทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะโกธิคและเรอเนสซองค์ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน โดยยูเนสโก้ยกให้มหาวิหารแห่งนี้ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองสปริต (Split) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของโครเอเชีย รองลงมาจากเมืองซาเกรบ ในแคว้นดัลเมเชียนซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธ์ดัลเมเชียน ที่นี่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ, วัฒนธรรมและการคมนาคมที่สำคัญที่สุดของเขตชายทะเล ด้วยมีสนามบินนานาชาติที่สามารถรองรับการเดินทางทางภาคใต้ของโครเอเชียกับหลายเมืองในยุโรป เที่ยวชมเมืองโบราณสปลิต เป็นที่ตั้งของพระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian’s Palace) สร้างในราวศตวรรษที่ 3 บนอ่าวอัสพาลาโธส โดยดิโอคลีเธียนจักรพรรดิแห่งโรม ซึ่งพระองค์ทรงพำนักที่พระราชวังแห่งนี้จนสิ้นชีพในปี ค.ศ.305 ชมร่องรอยของพระราชวังที่มีอายุกว่า 1,700 ปี ด้านในเป็นมหาวิหารสร้างในยุคกลาง ป้อมปราการเดิมเพื่อป้องกันข้าศึก UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อิสระให้ท่านพักผ่อนหย่อนใจบนพรอมมินาด ถนนเลียบทะเลที่งดงามของเมือง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU RESORT SPLIT หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่เมืองดูบรอฟนิก ผ่านอาณาเขตดินแดนของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ผ่านเมืองสตอน ที่มีฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมอยู่มากมาย ที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบตัวเมืองเก่าบนยอดเขาโดยกำแพงเมืองนี้มีความยาว 5.5 กม. โดยมีความยาวเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป และเป็นอันดับสองรองจากกำแพงเมืองจีน จนเข้าสู่เมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik) เมืองดูบรอฟนิกเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานามไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง, สร้างโบสถ์, วิหาร สร้างจัตุรัสและน้ำพุ บ้านเรือนต่างๆ ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย เสน่ห์ของเมืองอยู่ที่เขตเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณสูงตระหง่าน ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติก เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาว ดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านแปงเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองแข็งแรงขึ้นล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่ามากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.00 น. นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์ สู่จุดชมวิวบนยอดเขา เสน่ห์ของดูบรอฟนิก อยู่ที่จุดชมวิวของแต่ละแห่งไม่ซ้ำแบบ ขึ้นสู่ยอดเขาบนความสูง 405 เมตร เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองแบบพาโนรามา กล่าวกันว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมือง จากนั้นนำเที่ยวชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate), น้ำพุโบราณทรงกลม (Onfrio Foutain), โบสถ์ฟรานซิสกัน ในสถาปัตยกรรมโกธิก ภายในมีร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1391 ชมสปอนซ่าพาเลซ (The Sponza Palace) พระราชวังเดิม งดงามในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนซองส์ เป็นหอจดหมายเหตุที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นเมืองท่าการค้าขายทางทะเลในอดีต จัตุรัสกลางเมือง (Loggia) ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบของชาวเมืองในอดีต โบสถ์เซนต์เบลซ (St.Blaise) นักบุญประจำเมือง สไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง เข้าชมเรคเตอร์พาเลซ (Rector’s Palace) อดีตเคยเป็นที่ทำการรัฐบาล ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างของเมืองโบราณแห่งนี้ นำท่านชมเมืองแบบพาโนรามาวิวบนกำแพงเมืองโบราณ ที่โอบล้อมรอบเมืองเก่ายาวถึง 1,940 เมตร
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON DUBROVNIK RIVIERA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านเดินทางสู่เมืองโคทอร์ (Kotor) ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเลอาเดรียติกตอนใต้ของประเทศมอนเตเนโกร ระหว่างทางท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพของภูเขาที่โอบล้อมผืนนํ้าเอาไว้เหมือนเช่นฟยอร์ด ในนอร์เวย์ นำท่านชมเมืองโคทอร์ ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม เป็นเมืองที่สร้างภายในกำแพงสูง (City Wall) ซึ่งแบ่งตัวเมืองเป็น 2 ส่วนคือ เมืองเก่า (Old town) และเมืองใหม่ (New Town) โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส อีกทั้งสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสเช่นกัน นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซ็นต์ไทรฟอน (Cathedral of Saint Tryphon) ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1166 ภายในตัวเมืองเก่า อิสระให้ท่านเดินเล่นและชมความงามภายในตัวเมืองเก่า หรือเลือกซื้อของฝากที่ระลึกตามอัธยาศัย
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบุดวา เมืองบุดวาเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของมอนเตเนโกรและเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทมากมาย เมืองบุดวา สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5 เคยเป็นเมืองขึ้นของชาวเวนิส กว่า 400 ปีเช่นเดียวกับเมืองกอเตอร์ จึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของชาวเวนิสแต่ในสมัยศตวรรษที่ 18 มอนเตเนโกรเคยตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรออตโตมัน นอกจากนี้เมืองบุดวาเป็นอีกเมืองที่เป็นที่จับจ้องของประเทศล่าอาณานิคมทั้ง ฝรั่งเศส, ออสเตรีย และ รัสเซีย และในปี 1918 ตกเป็นของประเทศยูโกสลาเวีย นำท่านชมความงามภายในตัวเมืองเก่า หรือ Stari Grad (Old Town)และนำท่านเข้าชมโบสถ์เซ็นต์จอหน์ (Church of Saint John) ซึ่งภายในโบสถ์มีภาพไอคอนพระแม่มารี “Madonna in Punta” ประดิษฐานในโบสถ์แห่งนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปและเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองพอดกอร์ริซ่า (Podgorica)เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกรเพื่อนำท่านเข้าสู่ที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RAMADA HOTEL PODGORICA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
06.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
07.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติพอดกอร์ริซ่า เพื่อนำท่านสู่นครแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
10.40 น. ออกเดินสู่นครแฟรงค์เฟิร์ตโดยสายการบินมอนเตเนโกร แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ YM160
12.50 น. คณะเดินทางถึงสนามบินนครแฟรงค์เฟิร์ต จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร
14.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งบนถนนไซล์ ว็อลคกิ้งสตรีทที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน หรือ สินค้าแบรนด์เนมอาทิ Louis Vuitton, Chanel, Prada บนถนน Goethestraße
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก FRANKFURT MARRIOTT HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองรูเดสไฮม์ เมืองโรแมนติกแห่งแม่น้ำไรน์ รูเดสไฮม์เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นเมืองเก่า เรียงรายด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านไวน์ และภัตตาคารที่ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนไม่ขาดสาย มีอาคารกึ่งไม้ซุงไม้ที่เก่าแก่และสวยงามของเมืองสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ที่เรียกว่า “Klunkhardshof” จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าลอยฟ้า เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองรูเดสไฮม์ ระหว่างทางได้ชมวิวทิวทัศน์ของไร่องุ่นที่เขียวขจี ณ เบื้องล่าง มองเห็นเมืองรูเดสไฮม์ริมแม่น้ำไรน์ที่สวยงามและให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ไนเดอวาลด์ เป็นอนุสรณ์แห่งการเฉลิมฉลองการจัดตั้งจักรวรรดิเยอรมันและการรวมประเทศเยอรมันเป็นหนึ่งเดียว สมควรแก่เวลานำท่านนั่งกระเช้ากลับลงเส้นทางเดิมเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองแอสมันเชาเซ่น
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมเมืองแอสมันมันเชาเซ่น เมืองเล็กๆน่ารักริมแม่น้ำไรน์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องไวน์แดง มีอาคารบ้านเรือน โรงแรมและภัตตาคารที่สวยงามจำนวนมาก ทั้งภายในตัวเมืองและบริเวณหน้าท่าเรือริมแม่น้ำไรน์ จากนั้นนำท่านล่องเรือแม่น้ำไรน์ ณ จุดที่ได้ชื่อว่า “ประตูสู่การท่องเที่ยวภูมิภาคไรน์” (World Heritage Site) สองฝั่งแม่น้ำมีปราสาท, หอคอย, หมู่บ้านริมแม่น้ำ และไหล่เขาที่ปลูกไร่องุ่นเขียวขจีตลอดลำน้ำ เส้นทางนี้ยังได้ชื่อว่าเป็น Castle Rhine จากยุคโรมันและชาวเยอรมันเผ่าต่าง ๆ ยังคงมีมนต์เสน่ห์อย่างไม่เสื่อมคลาย วิถีของชาวเมืองยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และทางด้านจิตใจของชาวเยอรมัน จนเรือเทียบท่าที่เมืองเซนต์กอร์
17.00 น. นำคณะออกเดินทางสู่สนามบินเมืองแฟรงค์เฟิร์ต เพื่อทำ Tax refund แล้วเตรียมตัวบินสู่กรุงเทพ
20.55 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG923
13.35 น. สายการบินไทย นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
(หมายเหตุ โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการจัดโปรแกรมของแต่ละวันเดินทางจะไม่เหมือนกัน โปรแกรมท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ครบถ้วนจะส่งให้ท่าน 7 วันก่อนการเดินทางเท่านั้น)
TAT License No. 11/08663
โทรศัพท์ 02-664-3020 – 1
แฟกซ์ 02-664-3022
อีเมล์ info@myjourney.co.th
Line ID: myjourneytravel
Developed by : Idoconnect.com