รหัสแพ็คเกจ EUR_36
เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองมิบาน เดินทางเข้าสู่มอนเตกาโล เดินทางสู่เมืองกราซ เดินทางต่อสู่เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองเลโบเดอโพรวองซ์ เที่ยวชมเมืองอาวีญง เดินทางต่อสู่เมืองอาร์ก ออกเดินทางสู่เมืองบอร์โด จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ Pomerol
22.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 3 เคาน์เตอร์ D (9-12) สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก
หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้
00.05 น. ออกเดินทางสู่กรุงปารีส โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG930
07.05 น. สนามบินชาร์ลเดอโกล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว รถโค้ชรอรับคณะเพื่อเดินทางท่องเที่ยวต่อ
นำท่านออกเดินทางสู่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบทที่ชื่อว่า จิแวร์นี (Giverny) เพื่อชมบ้านโมเนต์ ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ที่โด่งดัง บ้านสองชั้นหลังนี้ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณไม้นานาชนิด ห้องและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ยังคงสภาพเดิม ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน และห้องครัวขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ทำครัวครบครันสะท้อนให้เห็นว่าโมเนต์เป็นคนพิถีพิถัน ไฮไลท์ของบ้านคือสวนสวย 2 แห่งอยู่ในที่เดียวกัน สวนไม้ดอกคลาสสิคสไตล์ฝรั่งเศส “คลอส นอร์แมนด์” (Clos Normand) และสวนไม้น้ำขึ้นมาคู่กับสวนไม้ดอกเหมือนกับโมเนต์ตวัดปลายพู่กันลงบนผ้าใบ กลางสวนไม้น้ำมีสระบัวที่เป็นต้นกำเนิดของภาพเขียนชุดอันเลื่องชื่อ “Water Lilies” เงาสะท้อนบนพื้นน้ำในสระบัวเป็นสิ่งที่โมเนต์ชื่นชอบมาก
**บ้านโมเน่ต์ เปิดให้เข้าชมในระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 1 พฤศจิกายน 2560
ดังโปรแกรมทัวร์ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม-23 มีนาคม 2560 จะไม่รวมค่าเข้าชมบ้านโมเน่ต์**
จากนั้นนำท่านชมมหาวิหารรูอ็อง (Rouen Cathedral) โมเนต์ได้วาดภาพวิหารแห่งนี้ในช่วงเวลาที่ต่างกัน โมเนต์เปลี่ยนผ้าใบที่ใช้วาดผืนแล้วผืนเล่า แสงที่สาดส่องบนวิหารก็เปลี่ยนตามไปด้วยภาพเขียนคอลเล็คชั่นนี้มีทั้งหมด 28 ภาพ จากนั้นไปชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองคือโบสถ์โจน ออฟ อาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่ที่ โจน ออฟ อาร์คถูกเผาทั้งเป็นวีรสตรีของฝรั่งเศสถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็นเมื่ออายุได้เพียง 19 ปี
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.30 น. เดินทางสู่เมืองก็อง (Caen) ชมทัศนียภาพของเมืองจากแนวกำแพงของปราสาท ก็อง ที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในครั้งอดีต นำคณะเข้าชมอนุสรณ์สถานแห่งสงครามโลก Memorial de Caen ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีอาคารกว่า 200,000 หลังถูกทำลาย ผู้คนเสียชีวิตนับแสนและบาดเจ็บอีกมากมาย การจัดแสดงเรื่องราวการยกพลขึ้นบกในวันดีเดย์ ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแคว้นนอร์มังดีทั้งสิ้น ตลอดจนเรื่องราวของผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพคนแรกจนถึงปัจจุบัน จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองแซงต์มาโล St. Malo
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก OCEANIA HOTEL ST.MALO หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านสู่มงต์แซงต์มิเชล (Mont Saint-Michel) ที่ตั้งของศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม อยู่บนเกาะในเขตแคว้นนอร์มังดี สถานที่แห่งนี้ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1979 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับ 3 ของฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซายน์ มงต์แซงต์-มิเชล สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ตลอดการสร้างจนปี ค.ศ.966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็ง-ว็องดรีย์ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตขนาดใหญ่สูงจากระดับน้ำทะเล 75 เมตร จากนั้นมีการสร้างต่อเติมหลายยุคหลายสมัย เมื่อครั้งที่แคว้นนอร์มังดีเจริญรุ่งเรือง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. เดินทางสู่เมืองตูร์ Tours ในเขตแม่น้ำลัวร์ทางตอนเหนือและแม่น้ำแชร์ทางตอนใต้ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน จัตุรัสเมืองเก่า เรียงรายไปด้วยบ้านกึ่งไม้ซุงที่สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง เป็นเมืองคลาสสิคที่น่าชมอีกเมืองหนึ่ง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALLIANCE HOTEL TOURS หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
07.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.30 น. รถโค้ชนำคณะเดินทางสู่ชาโตชองบอร์ด มหาปราสาทแห่งลุ่มน้ำลัวร์ มีแม่น้ำสายยาวที่สุดของฝรั่งเศสคือ 1,013 กิโลเมตร สองฟากฝั่งมีปราสาทหรือชาโต Chateau ของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ ในจำนวนทั้งหมดชาโตชองบอร์ด Chambord นับเป็นความปรารถนาสูงสุดของนักท่องเที่ยว พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1519 หลังนำทัพไปชนะอิตาลีที่เมืองมิลานเพื่อไว้รับรองพระสหาย และไว้เป็นที่ประทับเมื่อมาล่าสัตว์ ลีโอนาร์โด ดาวินชี เป็นผู้ร่างโครงสร้าง ต่อมาภายหลังDominigue de Cortone สถาปนิกฝรั่งเศสและทีมงาน ได้นำเค้าโครงสร้างนี้ไปปรับปรุงเป็นแบบสมบูรณ์ ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนป่า ที่มีอาณาเขตถึง 13,500 เอเคอร์ ไม้ที่ทำโครงและพื้นเป็นไม้โอ๊กจากป่าบริเวณปราสาท หลังคาและส่วนตกแต่งที่เลียนแบบจากหินอ่อน ด้านหน้าทางเข้าปราสาทเป็นลานกว้างบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ฟรองซัวส์ที่ 1 ด้านหลังเป็นโบสถ์ และที่ประทับของกษัตริย์ ทางขึ้นปราสาททำเป็นบันไดวนออกแบบโดยดาวินชี มีช่องบันไดซ้อนกันอยู่ทำให้ขึ้นและลงแยกจากกันได้เป็นอิสระ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.30 น. นำคณะเข้าชมภายในชาโตเชอนงโซ Château de Chenonceau สร้างบนฝั่งแม่น้ำแชร์ และสร้างมาก่อนหน้าที่จะมีหลักฐานทางเอกสาร เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 ออกแบบโดยฟิลแบรต์ เดอลอร์ม สถาปนิกเรอเนซองส์ตระกูลเมเนียร์ Menier ลักษณะของสถาปัตยกรรมของเชอนงโซ เป็นแบบผสมระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิค และสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ตอนต้น ลานด้านหน้าวางแบบลานปราสาทยุคกลางล้อมรอบด้วยคูน้ำ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ทำจากไม้แกะสลัก ด้านในเป็นชาเปล โดดเด่นด้วยหน้าต่างประดับกระจกสี, ห้องบรรทม, ห้องกรีน เป็นลักษณะศิลปะแบบโกธิคและเรอเนซองส์ ห้องรับรอง, ห้องบรรทมพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1, ห้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และห้องโถงตกแต่งด้วยเพดานโค้งสันที่มีหินหลัก แยกจากกันเป็นเส้นขาด ถือว่าเป็นห้องที่แกะสลักที่สวยที่สุดห้องหนึ่งในการตกแต่ง แบบเรอเนซองส์แบบฝรั่งเศส
16.20 น. เดินทางสู่เมืองบอร์โด โดยรถไฟด่วน TGV
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE BORDEAUX CENTRE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
07.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.30 น. นำชมเมืองบอร์โด Bordeaux เมืองหลวงของแคว้นอากีแดน เป็นเมืองท่าใกล้ชาย ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส มีแม่น้ำการอนไหลผ่านออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่เมืองซูลัก-ซูร์-แมร์ เขตท่าเรือปอร์ตเดอลาลูน Port de la Lune ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกในปี 2007 ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 บอร์โดมีชื่อเสียงและเป็นแหล่งผลิตไวน์คุณภาพที่จัดอยู่ในกลุ่ม AOC (Appellation d’Origine Contrôlée) ซึ่งไวน์ดี ๆ ของฝรั่งเศส มักจะอยู่ในกลุ่มนี้ นำคณะเดินทางสู่ Pomerol เขตพื้นที่การทำไร่องุ่นที่เล็กที่สุดในเมืองบอร์โด ด้วยเนื้อที่การทำไร่องุ่นเพียง 5,000 ไร่ นำท่านชมขั้นตอนการผลิตไวน์ และ wine tasting ที่มีการผสมจากพันธุ์องุ่นถึง 3 ชนิดได้แก่ Merlot 75%, Cabernet Franc 18% และ Cabernet Sauvignon 7% จากนั้นนำคณะเดินทางสู่เขตพื้นที่การผลิตไวน์อีกแห่งหนึ่งแซ็ง-เตมีลียง Saint-Emilion นับเป็นเขตพื้นที่ที่เก่าแก่ที่สุดของแคว้น ซี่ง องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตมรดกโลกในปี 1999 ในฐานะที่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของภูมิทัศน์ ไร่องุ่นประวัติศาสตร์ ที่รักษาสภาพที่สวยงามจากอดีตถึงปัจจุบัน และยังคงทำการเพาะปลูกองุ่นที่ยังคงรักษาคุณภาพองุ่น เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตไวน์ในภูมิภาคไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีการกำหนดมาตรฐานการผลิต และการตรวจสอบคุณภาพอย่างเคร่งครัด จากอดีตจนถึงปัจจุบันไวน์แซ็งเตมีลียง ได้รับการยกย่องว่าเป็นไวน์ที่มีคุณภาพเป็นเลิศ มีรสชาตินุ่มนวล สีสันสดใส และบ่มได้คุณภาพมากที่สุดของบอร์โด ถึงแม้ว่าจะมีการผลิตได้เป็นจำนวนน้อยแต่คุณภาพที่ได้นั้นกลับตรงกันข้าม
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.30 น ออกเดินทางสู่เมืองการ์กาซอนในแคว้นล็องก์ดอค-รูซียง Languedoc-Roussillon มีที่ราบสูง Massif Central และเทือกเขาปีเรเน่เป็นฉากหลัง มีแสงแดดอันอบอุ่นเกือบตลอดปี เส้นทางสายวัฒนธรรมที่สืบสานมาตั้งแต่ครั้งก่อนประวัติศาสตร์ จน ถึงยุคโรมันที่จะเห็นได้จากร่องรอยของกำแพงเมือง และป้อมปราการอันแข็งแกร่งในยุคกลาง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE CARCASSONNE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. ออกเดินทางผ่านเมืองมงเปลีเย่ เส้นทางนี้ร่มรื่นสวยงามลัดเลาะผ่านไร่องุ่นสองข้างทางเรียงรายด้วยต้นไม้ เขตนี้ปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์กอร์บีแยร์และมีแนร์วัวซึ่งเป็นไวน์แดงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แล้วเข้าสู่เมืองอาร์ก Arles ชมสนามต่อสู้ของชาวโรมัน Arène d’Arles ความจุ 25,000 ที่นั่งอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีและโรงละครสมัยโรมัน (le théâtre antique) ได้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกของ UNESCO เมื่อปี 1981 เสน่ห์ของเมืองนี้เป็นที่หลงใหลของแวนโก๊ะ หรือวินเซนต์ แวนโก๊ะ ได้มาพำนักอาศัยอยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. เดินทางสู่เขตหุบเขาแม่น้ำโรห์น แม่น้ำสายสำคัญของภูมิภาคนี้ นำท่านไปชมปงต์ ดู การ์ Pont du Gard หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวโรมันสร้างเมื่อ 2000 ปีมาแล้วคือทางส่งน้ำซึ่งมีความยาว 275 เมตรสามารถส่งน้ำได้ 34.8 ล้านลิตรต่อวัน ปงดูการ์ เป็นสะพานส่งน้ำจุดหนึ่งในการส่งน้ำระหว่างเมือง Uzès และเมือง Nîmes ซึ่งมีระยะทางถึง 50 กิโลเมตรได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 1985 จากนั้นเข้าสู่เมืองอาวีญง Avignon เมืองประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำโรห์น และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระสันตะปาปา Palais des Papes ที่ได้ย้ายที่พำนักมาที่นี่ในระหว่างปี ค.ศ.1309 – 1423 เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมที่สำคัญของแคว้น นอกจากนี้ยังมีสะพานที่มีชื่อเสียงอันได้แก่สะพานเซนต์เบเนเซ่ Pont Saint-Bénézet หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสะพานแห่งเมืองอาวีญง สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1177
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL AVIGNON CENTER HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำคณะเที่ยวชมเมืองเลโบเดอโพรวองซ์ Les Baux de Provence เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” แล้วเดินทางต่อสู่เมืองเอ็กซองโพร
วองซ์ Aix-en-Provence ในอดีตเคยมีฐานะเป็นถึงเมืองหลวงของแคว้นโพรวองซ์ เป็นศูนย์ กลางของอำนาจ ปัจจุบันเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส ที่มีความเก่าแก่ถึง 600 ปี ถนนมิราโบ le cour Mirabeau เป็นที่ตั้งของร้านค้าหรูและร้านกาแฟสไตล์ฝรั่งเศส เมืองนี้โด่งดังจากภาพวาดภูเขาแซงก์ วิกตัวร์ Saint Victoire ที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามของภูมิทัศน์ ผลงานของศิลปินชื่อก้องโลก ปอล เซซาน Paul Cézanne ที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองนี้
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. เดินทางสู่เมืองกราซ Grasse หรือที่รู้จักกันในนาม “เมืองหลวงแห่งโลกน้ำหอม” เพื่อให้ท่านได้เข้าชมโรงงานผลิตน้ำหอมที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ชมกระบวนการผลิตน้ำหอมด้วยการสกัดและการกลั่น ตลอดจนห้องจัดนิทรรศการ แสดงประวัติความเป็นมาของการผลิตน้ำหอม และคอลเล็กชั่นขวดน้ำหอมต่าง ๆ อย่างมากมาย แวะเที่ยวชมเมืองคานส์ เมืองแห่งเทศกาลหนังนานาชาติที่จัดขึ้นประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้าปาเล่ เด เฟสติวาล Palais des Festivals ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์ยังเต็มไปด้วยโรงแรมหรูหราริมชายหาดริเวียร่า และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท La Promenade de la Croisette นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงาม ๆ ของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย แล้วเข้าสู่เขตริเวียร่าที่โด่งดังของฝรั่งเศส โดยมีเมืองนีซ Nice มีความใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU HOTEL NICE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. ออกเดินทางสู่รัฐโมนาโก หรือไมอามี่แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากการเปลี่ยน แปลงกฎหมายทำให้เมืองมองติกาโล Monte-Carlo กลายเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของยุโรปซึ่งเศรษฐีนิยมมาเที่ยวกัน นำท่านเข้าสัมผัสกับความหรูหราภายในบ่อนคาสิโนมองติกาโล เที่ยวชมโมนาโกเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลสวย, หมู่ตึกระฟ้าและทิวเขาอันงดงาม ชมมหาวิหารที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซเคลลีแห่งโมนาโค สตรีผู้สูงศักดิ์ ที่ชีวิตเปรียบเสมือนเทพนิยาย จากหญิงสาวธรรมดาที่โชคชะตาพลิกผันให้เป็นเจ้าหญิงในราชวัง วันนี้เธอเป็นตำนานที่ไม่ใช่เพียงเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แต่เธอนำพาชื่อเสียงให้โมนาโคเป็นที่รู้จักด้านสาธารณะประโยชน์ องค์กรการกุศลต่าง ๆ มากมาย แล้วไปถ่ายรูปกับปาเล เดอ แปรงซ์ Palais De Princes ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐสร้างขึ้นบนส่วนที่เป็นเดอะร็อกท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม แล้วไปชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่าเรือสองแห่งคือ Port De Fontvieille และ Port Hercule ท่าจอดเรือยอร์ชอันหรูหราแสดงถึงความมั่งคั่ง และร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. รถโค้ชนำเข้าสู่ใจกลางเมืองมิลาน เมืองแห่งแฟชั่นที่สำคัญเมืองหนึ่งของโลก
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL RADISSON BLU MILAN หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. นำท่านชมดูโอโม มหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรปและอันดับสี่ของโลกสร้างขึ้นตามสไตล์โกธิคมีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากทุกยุคทุกสมัยกว่า 3,200 ชิ้น ในยุครุ่งเรืองสุดขีด ซึ่งนับเป็นสิ่งบ่งบอกให้เห็นถึงความแปลกแยก ระหว่างเมืองมิลานกับเมืองอื่นๆ ของอิตาลี นอกจากนี้มิลานยังได้ชื่อว่ามีสถานที่สำคัญระดับสุดยอดของโลกอันได้แก่ อาคารแกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล ซึ่งเป็นห้างอันเก่าแก่ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย “โรงละครสกาล่า” โรงละครโอเปร่าบนจัตุรัสเดลลา สกาลา บันทึกภาพกับรูปปั้นของศิลปินเอก ลีโอนาโด ดาวินชี
11.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินมาเพนซ่า เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
14.05 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 941
05.55 น. นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
(หมายเหตุ โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการจัดโปรแกรม
ของแต่ละวันเดินทางจะไม่เหมือนกัน โปรแกรมท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ครบถ้วน จะส่งให้ท่าน 7 วัน ก่อนการเดินทางเท่านั้น)
TAT License No. 11/08663
โทรศัพท์ 02-664-3020 – 1
แฟกซ์ 02-664-3022
อีเมล์ info@myjourney.co.th
Line ID: myjourneytravel
Developed by : Idoconnect.com