รหัสแพ็คเกจ WWV09A
ชมความงดงามที่ซ่อนเร้นของเมืองเคปทาวน์ นำท่านเที่ยวชมแหลมแห่งความหวัง หรือ แหลมกู๊ดโฮป เที่ยวชมเมืองเคปทาวน์ นำท่านสู่ West Coast Ostrich Farm ฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศขนาดใหญ่ เดินทางตามเส้นทาง Wine Route แหล่งรวมไร่องุ่นและแหล่งผลิตไวน์ขึ้นชื่อที่ สแตลเลนบอช คณะเดินทางถึงสนามบินกรุงโจฮันเนสเนสเบิร์ก จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองพริทอเรีย เมืองแห่งดอกไม้สีม่วง นำคณะเที่ยวชม Union Building ทำเนียบประธานาธิบดี และที่ทำการของรัฐบาลที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับพระราชวัง ท่องป่าซาฟารีดูสัตว์ที่วนอุทยานสัตว์ป่าขุนเขาพีลาเนสเบิร์ก นำคณะออกเดินทางกลับสู่นครโจฮันเนสเบิร์ก ระหว่างทางนำคณะเข้าสู่สวนเสือ The Lion Park คณะถึงสนามบินวิคทอเรียฟอล นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกวิคทอเรีย นำคณะออกเดินทางสู่สาธารณรัฐบอทสวานา
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – ดูไบ – เคปทาวน์ (อัฟริกาใต้) – V&A วอเตอร์ฟร้อนท์
00.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรสท์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก
หมายเหตุ ทางบริษัทได้จัดเตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ 15 วันก่อนการเดินทาง โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองโรงแรมที่พัก, ร้านอาหาร ตลอดจนสถานที่เข้าชมต่าง ๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับกรุ๊ปทัวร์ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันสุดวิสัยอาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ รวมถึงการถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเป็นผลทำให้การเดินทางล่าช้า หรือ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ตามโปรแกรม หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ท่านได้ชำระมาแล้ว เพราะทางบริษัท ฯ ได้มีการตกลงชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ มิอาจรับผิดชอบได้
02.40 น. ออกเดินทางสู่เมืองโจเบิร์ก โดยสายการบินเอมิเรสท์ เที่ยวบินที่ EK419 / EK770 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ (0240-0605 // 0850-1630)
16.30 น. ถึงสนามบินเมืองเคปทาวน์ ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง (นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รับการยกเว้นการขอวีซ่า สามารถพำนักในอัฟริกาใต้ได้ 30 วัน) รถโค้ชรอรับคณะและเดินทางสู่เดินทางสู่ย่าน Victoria & Alfred Waterfront วิคตอเรีย แอนด์ อัลเฟรด วอเตอร์ฟร้อนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ให้คุณได้สัมผัสความมีชีวิตชีวาของเคปทาวน์ มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และเป็นท่าเทียบเรือขนาดเล็กอีกด้วย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน Chinese
นำท่านเข้าสู่ที่พัก THE COMMODORE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.thecommodore.co.za
เกาะแมวน้ำ – เคปพอยท์ – แหลมกู๊ดโฮป – นกเพนกวิน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. รถปรับอากาศนำคณะเที่ยวชมความงดงามที่ซ่อนเร้นของเมืองเคปทาวน์ เมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ปลายสุดทางฝั่งตะวันตกของทวีปอัฟริกาใต้ เป็นเมืองหลวงด้านนิติบัญญัติของอัฟริกาใต้ มีอดีตเก่าแก่และทันสมัยที่สุด แถมด้วยรางวัลการเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าใจกว้างที่สุดของอัฟริกาใต้อีกด้วย เพราะที่เมืองนี้คนต่างสีผิวสามารถเดินเคียงบ่าเคียงกันได้ทุกสถานที่ คณะลงเรือที่ท่าฮูทเบย์ (Hout Bay) เพื่อไปชมแมวน้ำที่ เกาะดุยเกอร์ (Duiker Island) เหล่าแมวน้ำตัวอ้วนอุยนอนเบียดเสียดอาบแดดกันเต็มเกาะตามธรรมชาติ แล้วแวะเยี่ยมเหล่าบรรดานกเพนกวินอัฟริกันที่เมืองไซมอน (Simon’s Town) ณ เมืองแห่งนี้บ้านเรือนจะตั้งลดหลั่นกันอยู่ตามเนินเขา หันหน้าออกทะเล ซึ่งเจ้าของส่วนมากเป็นคนมีฐานะทั้งนั้น เมื่อมาถึงบริเวณชายหาดโบลเดอร์ เจ้าบ้านตัวน้อยนกเพนกวินอัฟริกัน ตัวผู้มีสีสันมากกว่าตัวเมีย โดยเฉพาะบริเวณขอบตาจะมีสีชมพู คล้ายแต้มสีอายแชโดว์ไว้อย่างนั้น ส่วนตัวเมียจะไม่มี ลำตัวมีสีดำขาวตัดกัน แต่ตัวเมียมีสีน้ำตาล และมีขนาดใหญ่กว่า นกเพนกวินที่นี่ใช้ชิวิตอย่างอิสระสบายอารมณ์ตามธรรมชาติ แล้ว เดินทางสู่แหลมแห่งความหวัง หรือ แหลมกู๊ดโฮป
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เสริฟ์ด้วยเมนูกุ้งมังกร (Crayfish) Local
14.00 น. นำท่านเที่ยวชมแหลมแห่งความหวัง หรือ แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) อยู่ในเขตสงวน Cape of Good Hope Nature Reserve ปลายสุดแหลมมีประภาคารขนาดใหญ่ จะเห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกันได้ชัดเจน บนผิวน้ำซึ่งเป็นเหตุให้บริเวณนี้ ท้องทะเลมักมีหมอกลงจัดอากาศแปรปรวน ทั้งนี้เพราะกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นมาปะทะกัน ทำให้ยากต่อการเดินทางโดยทางเรือทั้งในสมัยโบราณและปัจจุบัน ทัศนะวิสัยไม่ดีนักทำให้เรือชนหินโสโครกหรือชนกันเองเสมอๆ จนก่อให้เกิดเรื่องราวของภาพหลอน มิติอันลี้ลับและเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับฟลายอิ้งดัตช์แมน Flying Dutchman ซึ่งเป็นชื่อเรือที่นักเดินทางเรือชาวดัตช์ ที่พยายามจะเดินทางอ้อมผ่านแหลมกู๊ดโฮป ให้ได้แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้เรือสูญหายไปในทะเลท่ามกลางหมกหนาทึบจนทุกวันนี้ และจุดชมวิวที่สวยที่สุดคือ Cape Point เคปพอยท์ จนได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางกลับสู่เมืองเคปทาวน์
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Thai
นำท่านเข้าสู่ที่พัก THE COMMODORE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.thecommodore.co.za
เคปทาวน์ – เทเบิ้ล เมาเท่น – ฟาร์มนกกระจอกเทศ – สแตลเลนบอช – ไวน์เทสติ้ง
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. เที่ยวชมเมืองเคปทาวน์ ตั้งอยู่ในแหลมทางใต้สุดของประเทศ เป็นเมืองท่องเที่ยวต่างอากาศ และยังมีแหลมต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือแหลมกู๊ดโฮป และแหลมอากุลฮาส ซึ่งตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปแอฟริกา เป็นจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดียมาบรรจบกันจึงทำให้มีอากาศแปรปรวน และบริเวณเมืองริมฝั่งทะเลของเคปทาวน์นี้ เป็นเส้นทางที่น่าเที่ยวที่สุดและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งจากนั้นนำคณะขึ้นสู่เทเบิ้ล เมาเท่น ภูเขาสูงยอดตัดตรง เหมือนกับโต๊ะ โดยกระเช้าไฟฟ้าหมุนรอบตัวเอง (Cable Car) ซึ่งในช่วงที่ลมแรงหรือมีฝนตกจะหยุดวิ่งทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้มาเยือน ขึ้นมาด้านบน มีเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามแนวขอบเขา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวรอบด้านได้อย่างชัดเจน ไกลไปจนถึงตัวเมืองเคปทาวน์ทีเดียว บนภูเขาโต๊ะนี้มีสัตว์ตัวเล็กประเภทหนึ่งหน้าตาน่าเอ็นดู ชื่อว่าตัวแดสซี่ หรือ กระต่ายหิน (Dassie or Rock Rabbit) มีลักษณะกึ่งผสมระหว่างกระรอกกับกระต่าย เป็นมิตรกับผู้คนที่ผ่านมาเยือน เมื่อมองไปรอบๆ เราจะเห็นภูเขารายล้อมหลายต่อหลายลูก แต่ที่โดดเด่นคือ ไลอ้อนเฮด (Lion Head) ภูเขาที่มองดูแล้วใครๆ ก็ต้องพูดว่าคล้ายหัวสิงโตในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าภูเขาลูกนี้มีสีแดงสวยงามยิ่งนัก
หมายเหตุ กระเช้า Cable Car จะปิดทำการในช่วงที่ลมแรงหรือมีฝนตกจะหยุดวิ่ง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้มาเยือน โดยทางกลุ่มฯ จะจัดให้ขึ้นชมวิวทิวทัศน์ของเมืองเคปทาวน์บนยอดเขา Signal Hill แทน
10.45 น. นำท่านสู่ West Coast Ostrich Farm ฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศขนาดใหญ่ เพื่อที่ท่านจะได้สัมผัสกับวงจรชีวิตของนกกระจอกเทศอย่างใกล้ชิด รับชมและรับฟังเรื่องราวของการเลี้ยงนกกระจอกเทศ อันเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ทำรายได้ดี ตลอดจนวงจรชีวิตของสัตว์ปีกที่มีขนาดใหญ่และวิ่งเร็วที่สุดในโลก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน เมนูสเต็กเนื้อนกกระจอกเทศ ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย เดินทางตามเส้นทาง Wine Route แหล่งรวมไร่องุ่นและแหล่งผลิตไวน์ขึ้นชื่อที่ สแตลเลนบอช Stellenbosch หรือ City of Oak เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องการทำไวน์เก่าแก่เป็นอันดับสองของแอฟริกาใต้ และที่นี่ยังมีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนการทำไวน์โดยเฉพาะ (Wine Maker) นำท่านชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้าน (Stellenbosch Village Museum) ซึ่งภายในบ้านจำลองสภาพความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนถึง 4 ยุค อันได้แก่ กระท่อมชเรียดอร์เฮยสโบราณ (1690-1720), บ้านเบลตเตอร์มันเฮยส (1750-1790), บ้านกรอเวอร์เนอร์สไตล์จอร์เจีย (1800-1830) และ บ้านเมอเรย์สไตล์วิคตอเรียยุคกลาง (1840-1870) อิสระให้ท่านได้เดินเล่นภายในเมือง ซึ่งยังคงรักษาอาคารบ้านเรือนสมัยเก่าไว้ได้ในสภาพที่ดีเยี่ยมและสวยงาม จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ Neethlingshof Wine Estate แหล่งผลิตไวน์ขึ้นชื่อที่อยู่ใจกลางสแตนแลนบอชซ่อนตัวอยู่บนเนินเขา Bottelary และภูเขา Papegaaisberg นำคณะชมโรงงานผลิตไวน์แดงคุณภาพ ซึ่งที่นี่มีบริการให้ชิมไวน์กันด้วย สำหรับท่านที่ชื่นชอบก็สามารถซื้อติดมือกลับบ้านได้ในราคาย่อมเยา จนได้เวลาอันสมควรนำคณะเดินทางกลับสู่เมืองเคปทาวน์
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน เลิศรสกับเมนูพิเศษกุ้งมังกร+เป๋าฮื้อ Chinese
นำท่านเข้าสู่ที่พัก THE COMMODORE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.thecommodore.co.za
เคปทาวน์ – โจฮันเนสเบิร์ก – เมืองหลวงพริทอเรีย – พักโรงแรมเดอะพาเลซ (2 คืน)
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. หลังอาหาร ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองเคปทาวน์
ออกเดินทางสู่กรุงโจฮันเนสเบิร์ก โดยสายการบินภายในประเทศ
คณะเดินทางถึงสนามบินกรุงโจฮันเนสเนสเบิร์ก จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองพริทอเรีย เมืองแห่งดอกไม้สีม่วง (Pretoria) เมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้เมืองนี้ ตั้งตามชื่อของแอนดีส์ พรีทอรีอัส (Andries Pretorius) วีรบุรุษของการต่อสู้รบระหว่างพวกบัวร์ (Boer) กับชนพื้นเมืองผิวดำ พริทอเรีย จึงเป็นเมืองหลวงของชาวบัวร์ที่พยายามต่อสู้กับพวกอังกฤษเพื่อให้ได้อิสรภาพ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตนานาชาติ ธนาคาร ทำเนียบประธานาธิบดีและที่ทำการรัฐบาล วุฒิสภาจะจัดประชุมขึ้นที่เมืองพริทอเรีย สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและอาจถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองคือ ต้นแจ๊กการันดา (Jacaranda) ที่มีดอกสีม่วงสดบานสะพรั่งดั่งเช่น ซากุระของชาวญี่ปุ่น เมืองนี้ได้สมญานามว่า “City of Jacarandas” ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งให้ได้เห็นกันในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Thai
บ่าย หลังอาหาร นำคณะเที่ยวชม Union Building ทำเนียบประธานาธิบดี และที่ทำการของรัฐบาลที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับพระราชวัง จนติดอันดับว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่สวยที่สุดในโลก เข้าชมพิพิธภัณฑ์วูร์เทรคเกอร์ (Voortrekker Monument & Museum) ศูนย์รวมจิตใจของชนผิวขาวเชื้อสายดั้งเดิมของชาวบัวร์ อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเดินทางอพยพของพวกบัวร์จากปลายแหลมของทวีป เข้าสู่ใจกลางประเทศแอฟริกาใต้และร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีของการสู้รบกับชาวพื้นเมืองนำคณะออกเดินทางเข้าสู่ “ซันซิตี้” Sun City หรือ The Lost City เมืองลับแลแห่งหุบเขาแสงตะวัน เป็นเมืองที่ถูกเนรมิตขึ้นจากความคิดของอภิมหาเศรษฐีที่ชื่อว่าซอล เคิร์ซเนอร์ ที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 28,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างนาน 18 ปี และความพยายามอีกล้นเหลือในการเนรมิต ผืนดินอันว่างเปล่าและแห้งแล้งในแคว้น Bophuthatswana กลางอัฟริกาใต้ให้กลายเป็นเมืองแห่งความสำราญบันเทิงทุกรูปแบบ โดยการเริ่มสร้างโรงแรมไปเรื่อยๆ ตั้งแต่โรงแรมเดอะซันซิตี้, โรงแรมเดอะคาบานาส, โรงแรมเดอะคาสเคด จนในปีค.ศ. 1992 เขาก็ได้สร้างโรงแรมที่ที่หรูราคาแพงที่สุดในบรรดาโรงแรมทั้งหลายที่ได้กล่าวมานามว่า เดอะพาเลซ (The Palace or The Palace of the Lost City) ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน และตกแต่งภายในสไตล์แอฟริกัน ให้สมกับเป็นอาณาจักรอลังการดาวล้านดวงแห่งนี้
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในอาณาจักรซันซิตี้ Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก THE PALACE OF THE LOST CITY www.suninternational.com
ท่องป่าซาฟารี Morning Game Drive – อิสระพักผ่อนในอาณาจักรซันซิตี้
06.00 น. ท่องป่าซาฟารีดูสัตว์ที่วนอุทยานสัตว์ป่าขุนเขาพีลาเนสเบิร์ก Pilanesburg Nature Reserve วนอุทยานสัตว์ป่าขุนเขาพีลาเนสเบิร์ก รถที่จะพาไปชมสัตว์เป็นรถแบบเปิดโล่งด้านข้างเปิดโล่งรับลม จุคนได้ 20 คน รถแต่ละคันจะมีนายพราน หรือ Ranger ซึ่งเป็นทั้งคนขับรถและไกด์คอยแนะนำวิธีการชมสัตว์ให้ทราบ ป่าพิลาเนสเบิร์กแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 500 ตารางกิโลเมตร พื้นที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อหลายร้อยปีก่อน ทำให้ผืนดินมีแร่ธาตุอุดมสมบรูณ์ มีความเขียวชอุ่มเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานับชนิด และแน่นอนหมายรวมถึง ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า (Big Five) คือ ควายป่า ช้าง สิงโต แรด และเสือดาว ซึ่งถ้าได้เห็นครบก็ถือได้ว่าเป็นการชมสัตว์ที่สมบูรณ์ แต่ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะสัตว์ที่นี่อยู่กันอย่างอิสระ ในป่าซึ่งเป็นป่าโปร่ง ป่าละเมาะและทุ่งหญ้าสะวันนา จนถึงกึ่งทะเลทราย อัฟริกาใต้มีสัตว์ป่ากว่า 220 ชนิด ซึ่งสัตว์ป่าที่มีชีวิตอยู่อย่างอิสระตามธรรมชาติ
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม Buffet
10.00 น. อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวก มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และทะเลน้ำจืดเทียมขนาดใหญ่ยักษ์ที่เรียกว่า Valley of Wave มีลักษณะเหมือนทะเลจริงๆ แวดล้อมด้วยขุนเขาและต้นไม้ที่จัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ใกล้ๆ กันคือ สะพานแห่งกาลเวลา Bridge of time สองข้างสะพานมีช้างแกะสลักเรียงรายอยู่ สะพานนี้เชื่อมต่อกับกองหินมหึมา ที่เชื่อว่าเป็น The Lost City ที่สูญหายไป และเพื่อเป็นการตอกย้ำระลึกถึงความทรงจำเขาเลยสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้น ทุกๆหนึ่งชั่วโมงสะพานจะถูกเขย่าเสมือนแผ่นดินไหว นอกเหนือจากนี้ยังมีสนามกอล์ฟระดับมาตรฐานโลก ที่ใช้เป็นสถานที่แข่งขันกอล์ฟนัดสำคัญๆ มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ออกแบบโดยนักกอล์ฟชื่อดังของโลก Gary Player คือ Gary Player Golf Course และ Sun City Golf Course โรงภาพยนตร์ ร้านค้า บาร์ คาสิโนที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เมืองนี้ไม่เคยหลับใหล สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ที่รวบรวมพันธุ์ไม้จากทั่วโลกเอาไว้ พร้อมน้ำตก และธารน้ำไหลรินเอื่อยๆ ที่สร้างความสดชื่อสบายอย่างบอกๆไม่ถูก บางสถานที่และกิจกรรมบางประเภทถูกสงวนไว้สำหรับแขกที่มาพัก The Palace เท่านั้น
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในอาณาจักรซันซิตี้ Local
บ่าย อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยในอาณาจักรซันซิตี้
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในอาณาจักรซันซิตี้ Chinese
นำท่านเข้าสู่ที่พัก THE PALACE OF THE LOST CITY
ซันซิตี้ – โจฮันเนสเบิร์ก – สวนเสือ – อิสระช้อปปิ้ง
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางกลับสู่นครโจฮันเนสเบิร์ก ระหว่างทางนำคณะเข้าสู่สวนเสือ The Lion Park พาท่านนั่งรถชมชีวิตสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาพฤติกรรมของสัตว์โลกผู้น่ารักอย่างใกล้ชิด อาทิ โซนเจ้าป่า ซึ่งจะรวม White Lion, Cheetah, Wild Dog และยังมีโซนสัตว์ตระกูลมีเขาอย่าง Springbuck, Gemsbok, Blesbok, ยีราฟ และ ม้าลาย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพประทับใจก่อนอำลา
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย เดินทางต่อเพื่อเข้าสู่นครโจฮันเนสเบิร์ก หากมีเวลานำท่านแวะซื้อสินค้าพื้นเมืองขึ้นชื่อที่ร้าน Cambanos อาทิ ผลิตภัณฑ์จากไข่นกกระจอกเทศ หนังสัตว์ หินสี ลูกปัด งานแกะสลักไม้ และงานผ้าทอมือต่างๆ ฝากคนที่รักทางบ้าน จากนั้นนำท่านเที่ยวชมย่านธุรกิจค้าเพชร ซึ่งที่อัฟริกาใต้มีเหมืองเพชรขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกอีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของอัญมณีล้ำค่า อิสระให้ท่านได้เดินเล่นในย่านแซนตั้น ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งของคนที่นี่
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำสไตล์อัฟริกัน ณ ภัตตาคารคาร์นิวอร์ BBQ หอมกรุ่น ที่มีเนื้อหลากหลายชนิดให้ท่านได้ทดลองชิมท่ามกลางบรรยากาศอันโรแมนติก Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MONDIOR HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.mondior.com/emperorspalace
โจฮันเนสเบิร์ก – ซิมบับเว – น้ำตกวิคทอเรีย – ล่องเรือชมอาทิตย์อัสดง Sundowner Cruise
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
10.50 น. ออกเดินทางสู่เมืองวิคทอเรียฟอล, ประเทศซิมบับเว โดยสายการบินภายในประเทศ
12.30 น. คณะถึงสนามบินวิคทอเรียฟอล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และได้รับสัมภาระแล้ว นำคณะเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พักเพื่อเก็บสัมภาระ และเปลี่ยนชุดให้เหมาะสมกับการท่องเที่ยวเดินชมน้ำตก (ระหว่างการเดินจะมีละอองน้ำตกจำนวนมาก ควรสวมกางเกงขาสั้น และรองเท้าสวมสบาย)
14.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารโรงแรม Local
15.00 น. จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกวิคทอเรีย ที่ใหญ่และงดงามติดอันดับโลก มีความยาวเกือบ 1.7 กิโลเมตร กินพื้นที่ครอบคลุมถึงสองประเทศ คือ ประเทศซิมบับเว และประเทศแซมเบีย น้ำตกแห่งนี้ไหลลงสู่แม่น้ำแซมเบซีที่เชี่ยวกราก ในช่วงที่มีปริมาณน้ำมาก น้ำตกนี้จะแย่งกันทะลักพวยพุ่งลงไปยังเบื้องล่าง กระทบกับหิน ทำให้เกิดเสียงดังและฟองฝอยฟุ้งเป็นละอองน้ำ ดุจมีหมอกครอบคลุมไปทั่วบริเวณ พาท่านชมน้ำตกที่บริเวณเดวิล คาทาแรคท์ จุดเริ่มต้นของน้ำตก และจุดชมวิวที่เป็นเมนฟอลล์, ฮอร์สชูฟอลล์, เรนโบว์ฟอลล์, ซึ่งนับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดเมื่อยามพระอาทิตย์ปรากฏ จะเห็นรุ้งกินน้ำได้อย่างชัดเจน
17.00 น. เปลี่ยนบรรยากาศสู่ Boat Sundowner Cruise เรือท่องเที่ยวล่องไปตามลำน้ำแซมเบซี ชมฝูงสัตว์ที่ออกหากินยามเย็น ล้วนแต่เป็นภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในยามอาทิตย์อัสดง ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าช่างงดงามยิ่ง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารโบม่า พร้อมพิธีต้อนรับแบบซิมบับเว
อาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์บาบีคิว ให้ท่านได้เลือกชิมเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ อาทิ เนื้อแกะ, เนื้อนกกระจอกเทศ, หมูป่า, กูดู้, อิมพาล่า, เนื้อ, ฯลฯ ซึ่งท่านสามารถเลือกรับประทานได้ตามใจพร้อมชมการแสดงแบบอัฟริกันแท้ๆ โดยชนพื้นเมือง Buffet Boma Dinner
นำท่านเข้าสู่ที่พัก VICTORIA FALLS SAFARI LODGE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.victoria-falls-safari-lodge.com
ท่องป่าอุทยานแห่งชาติโชเบะ (Chobe National Park) – Boat Safari
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
07.00 น. นำคณะออกเดินทางสู่สาธารณรัฐบอทสวานา Botswana ผ่านด่านพรมแดนแล้ว นำคณะเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติโชเบะ Chobe National Park อุทยานแห่งชาติโชเบะเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุด ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องป่าดูสัตว์แบบซาฟารี อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 10,698 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นดันดับ 3 ในบอทสวานา เป็นแหล่งรวมฝูงสัตว์ใหญ่นานาชนิด อาทิ ฝูงช้างป่าที่มีกว่า 60,000 เชือก, ฝูงควายป่า, ม้าลาย, และสัตว์นักล่าอย่าง สิงโต, เสือดาว, เสือชีต้า, ไฮยีน่าลายจุด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูนก ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมนกนานาชนิดกว่า 450 สายพันธุ์ ซึ่งสัตว์ป่าที่นี่มีชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรีตามธรรมชาติ ตื่นเต้นกัน Game Drive โดยรถแบบซาฟารี รถที่จะพาไปชมสัตว์เป็นรถแบบเปิดโล่งด้านข้าง เปิดโล่งรับลม รถแต่ละคันจะมีนายพรานหรือ Ranger ซึ่งเป็นทั้งคนขับรถ และไกด์คอยแนะนำวิธีการชมสัตว์ให้ทราบ จุดเด่นของอุทยานฯแห่งนี้ ท่านจะเห็นฝูงช้างป่าอัฟริกันออกหากินตามลำน้ำ Elephant Crossing River เป็นภาพธรรมชาติที่หาชมได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ฝูงฮิปโปนับสิบตัวอาศัยอยู่ตามริมฝั่ง นอกจากนี้ท่านยังสามารถพบเห็นสัตว์จำพวกกวางป่าหายาก อย่างตัว เซเบล, เซลเซบี้, เรด รีชเว, กวางโชเบ, ฯลฯ ได้อีกด้วย
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในลอด์จ Local
บ่าย นำคณะสัมผัสกับกิจกรรมตื่นตาตื่นใจ Boat Safari เรือซาฟารี พาท่านล่องชมธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่าที่หากินอยู่บริเวณใกล้ๆแหล่งน้ำในเขตของแม่น้ำโชเบะ การล่องเรือซาฟารีนี้ จะทำให้ท่านได้เข้าสัมผัสกับฝุงสัตว์ต่าง ๆ ในระยะใกล้ และบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน จนได้เวลาอันสมควร นำคณะเดินทางกลับสู่ซิมบับเว
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก VICTORIA FALLS SAFARI LODGE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.victoria-falls-safari-lodge.com
นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมความงามของน้ำตกวิคทอเรีย – โจฮันเนสเบิร์ก – ชิมเนื้อสัตว์ป่าที่ภัตตาคารคาร์นิวอร์
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. นำคณะชมความงดงามของน้ำตกวิคทอเรียอีกครั้งจากมุมสูงด้วยการนั่งเฮลิคอปเตอร์ ประมาณ 12 นาที ซึ่งที่อุทยานแห่งชาติวิคทอเรียฟอลล์ มีกิจกรรมมากมายให้นักผจญภัยได้สัมผัส อาทิ อาทิ บันจี้จัมพ์จากสะพานวิคตอเรีย, ล่องแก่งด้วยแพยาง, นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมน้ำตกวิคทอเรีย หรือไมโครไลท์ ที่ให้ท่านได้ชมอย่างใกล้ชิด (หากท่านมีความประสงค์จะจองกิจกรรม กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า)
10.00 น. เดินทางกลับสู่ซิมบับเวอีกครั้ง จากนั้น นำคณะออกเดินทางสู่สนามบิน Victoria Falls Airport เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบกล่อง Lunch Box
13.55 น. คณะออกเดินทางโดยสายการบิน สู่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก
15.05 น. คณะเดินทางถึงสนามบินโจฮันเนสเบิร์ก
อิสระให้ท่านได้เดินเล่นในย่านแซนตั้น ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งของคนที่นี่ก่อนอำลา
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Chinese
19.00 น. หลังอาหาร ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองโจฮันเนสเบิร์ก
22.20 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรสท์ เที่ยวบินที่ EK766 / EK370 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ (22.20 – 08.20+1)
(11.45 – 21.00)
คณะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
21.00 น. คณะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
(หมายเหตุ โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการจัดโปรแกรม
ของแต่ละวันเดินทางจะไม่เหมือนกัน โปรแกรมท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ครบถ้วน จะส่งให้ท่าน 7 วันก่อนการเดินทางเท่านั้น)
TAT License No. 11/08663
โทรศัพท์ 02-664-3020 – 1
แฟกซ์ 02-664-3022
อีเมล์ info@myjourney.co.th
Line ID: myjourneytravel
Developed by : Idoconnect.com