Facebook
TAT License No. 11/08663
info@myjourney.co.th
เราคือบริษัททัวร์พรีเมี่ยม ที่ทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย จัดเต็มทุกรายละเอียด กินอร่อย พักสบาย เที่ยวสนุก เราเป็นศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ ที่มีโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศหลากหลายเส้นทาง เพียบพร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพ ที่พร้อมให้บริการและดูแลเอาใจใส่ทุการเดินทางของคุณ โปรแกรมของเราออกแบบมาอย่างดีด้วยประสพการณ์กว่า 15 ปี ไม่อัดแน่น มีเวลาให้เที่ยวชมและช็อปปิ้งอย่างเหลือเฟือไม่รีบร้อน เที่ยวเต็มอิ่ม พักสบาย ช้อปจนเพลิน อาหารอร่อยถูกปาก
ระยะเวลา: 11 วัน
ประเทศ: Northern Italy
ราคา: เริ่มต้น 89,000
ดาวน์โหลดทัวร์

เปิดมุมมองการเดินทางไปยังดินแดนที่มีสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์ ผนวกกับเมืองชนบทที่เงียบสงบ มีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงอากาศที่บริสุทธิ์ ขนาบข้างด้วยธรรมชาติที่แสนงดงาม ผสมผสานกับวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวโรมัน เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ของการท่องเที่ยวในดินแดนแห่งนี้ เพราะที่นี่คือ อิตาลีตอนเหนือ

Day1

นัดพบเพื่อทำการเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นัดหมายคณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ T ชั้น 4 (ประตู 9) โดยมีเจ้าหน้าที่สิริ ทัวร์เซ็นเตอร์คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน

Day2

กรุงเทพ ฯ – ดูไบ – ปาดัว

ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ด้วยสายการบินระดับโลกอย่าง “เอมิเรตส์ แอร์ไลน์” โดยเที่ยวบินที่ EK371 เวลา 02.00 – 05.50 น. (ณ เวลาท้องถิ่นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ เพื่อเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติมาร์โค โปโลประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ EK 135 เวลา 09.40 – 13.20 น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศอิตาลี) เดินทางถึงเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี  เวลา 13.20 น. เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และได้สัมภาระเรียบร้อย จากนั้นคณะเดินทางด้วยรถโค้ชปรับอากาศ

นำท่านเยี่ยมชมเมืองปาโดวา” (Padova) หรือ “ปาดัว” (Padua) เมืองท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนของแคว้นเวเนโต เป็นแคว้นหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี เริ่มที่มหาวิหารเซนต์แอนโทนีแห่งปาดัว และจัตุรัสปราโต เดลลา วัลเล่ (Prato della Valle) ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองปาโดวา เก็บภาพเป็นที่ระลึก เมื่อได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับสู่เมืองเมสเตร (Mestre)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day3

เมสเตร – เกาะเวนิส – มาราเนลโล

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านลงเรือ เพื่อเดินทางสู่เกาะเวนิสหรือเวเนเซีย เมืองที่ใช้การสัญจรโดยเรือเป็นหลัก มีสมญานามว่า “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก”  ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ศูนย์กลางเมืองอยู่ที่ “จัตุรัสซานมาร์โค” รายล้อมรอบจัตุรัสเป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบเวเนเชียน “พระราชวังเก่า”(PALAZZO DUCALE) เคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต  “มหาวิหารเซนต์มาร์ก” งดงามอลังการด้วยสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์  “แกรนด์คาแนล” เป็นคลองที่กว้างที่สุดของเกาะ สะพานเรียลอัลโต้ เป็นงานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรมอย่างที่สุด อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมถ่ายรูป หรือช้อปปิ้งสินค้าของเมือง งานฝีมือตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษที่มีชื่อเสียง อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ เป็นต้น

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำคณะนั่งเรือกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่ท่าเรือทรอนเคตโต้ รถโค้ชรอรับคณะเดินทางสู่เมืองมาราเนลโล

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day4

มาราเนลโล – ลา สเปเซีย

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมือง มาราเนลโล เมื่อเดินทางเข้าเขตเมืองมาราเนลโล สิ่งแรกที่ท่านจะได้เห็นคือรถเฟอร์รารี่ ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ประชาชนชาวเมืองใส่เสื้อผ้าที่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์เฟอร์รารี่ รวมถึงร้านต่าง ๆ ภัตตาคาร ร้านค้าของที่ระลึก โรงแรม บ้านเรือนของคนอิตาเลียนในแถบนี้ จะมีตราสัญลักษณ์หรือธงของเฟอร์รารี่ติดไว้ทั้งหมด นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์รถเฟอร์รารี่ (Ferrari Museum) เปิดดำเนินการเมื่อปี ค.ศ.1990 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของค่ายเฟอร์รารี่ทั้งหมด

หมายเหตุ: ท่านใดมีความประสงค์ทดลองขับรถเฟอร์รารี่(ไม่รวมอยู่ในทัวร์) กรุณานำใบขับขี่รถยนต์สากลติดตัวไปด้วย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมือง ลา สเปเซีย (LA SPEZIA) เมืองในเขตลิกูเรียทางตอนเหนือของอิตาลี อยู่ระหว่างเมืองเจนัว และปิซ่า บนทะเลลิกูเรีย และเป็นหนึ่งในอ่าวที่มีความสำคัญทางด้านการค้า และการทหาร เดินทางถึง เมือง ลา สเปเซีย พักผ่อนตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day5

ลา สเปเซีย – ชิงเคว่ เทอเร

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเที่ยวเมืองติดทะเลในเขต Liguria มี 5 หมู่บ้านอยู่ติดกัน รู้จักกันในนาม ชิงเคว่ เทอเร (Cinque Terre)แปลว่า “ห้าดินแดน” ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่เมือง มอนเตรอสโซ อัล มาเร (Monterosso al Mare) / เมืองเวร์นาซซา (Vernazza) / เมืองคอร์นีเลย (Corniglia) / เมืองมานาโรลา (Manarola) และ เมืองริโอมัจจอร์เร (Riomaggiore) เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริเวียร่า ทั้งหมดอยู่ใน ลา สเปเซีย (La Spezia) ทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านริโอมัจจอร์เร เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์คอยซ์ ทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเที่ยวชมวัฒนธรรมและความงดงามของหมู่บ้าน ชิงเคว่ เทอเร ต่อจนครบ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day6

ลา สเปเซีย – ปอร์โตฟิโน – เจนัว – เวโรนา

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่เมืองปอร์โตฟิโน (Portofino) ซึ่งเป็นเมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงระดับโลก อยู่ในเขตจังหวัดเจนัว ล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็ก ๆ จนได้รับการขนานนามว่า “สวรรค์แห่งเมืองท่า” ที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ ประกอบด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ตั้งเบียดเสียดกันตามเชิงเขาโอบล้อมอ่าวที่มีท่าเรือยอร์ช จอดเรียงราย อิสระถ่ายภาพ จนได้เวลาอันสมควร นำคณะเดินทางสู่เมืองเจนัว

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเที่ยวชมเมืองเจนัว (Genoa) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี บ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือผู้บุกเบิกและเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกาเมืองสุดคลาสสิคที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง ตกแต่งด้วยสีแบบพาสเทล ถนนบางสายบ่งบอกถึงอารยธรรมเก่าแก่ของยุคโรมัน เริ่มต้นการเดินชมเมืองจาก “พิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งแรกของเมดิเตอร์เรเนียน ตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าแห่งแรกของอิตาลี พระราชวังลอลลี่ (Palazzi dei Rolli) ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2006 รวมไปถึงถนนสายใหม่ โดยมีกลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์หลายแห่งดัดแปลงมาจากพระราชวังเก่า เมื่อได้เวลาอันสมควร เดินทางสู่เมืองเวโรน่า

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day7

เวโรนา – จูเลียตเฮ้าส์ – โบลซาโน่ – ออร์ติเซ่

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

เริ่มต้นเที่ยวเมืองเวโรน่า เมืองต้นกำเนิดของนิยายรักอมตะโรมิโอและจูเลียต ที่เล่าขานกันมากว่า 700 ปีโดยท่านเชคสเปียร์ นำชมบ้านเลขที่ 23 ของ “จูเลียต คาปูเลต์” กับภาพของระเบียงแห่งเรื่องราวโรแมนติก ที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน ผ่านชมเวโรนาอารีน่า โรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่อันดับสามของโลก

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่เมืองโบลซาโน่ เมืองในหุบเขา ซึ่งเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมือง ออร์ติเซ่ (Ortisei) เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา อิสระให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับอากาศอันบริสุทธิ์และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day8

ออร์ติเซ่ – คอร์ติน่า – อัลเป ดิ ซุยซี

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

ออกเดินทางไปยังทะเลสาบลาโก ดิ มิซูลิน่า (Lake Misurina) ทะเลสาบแสนสวยทีหลบซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ถือเป็นเขตสำคัญอีกเขตหนึ่งของ “โดโลไมท์” ที่งดงามเหมาะแก่การเก็บภาพและเยี่ยมชม

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองคอร์ติน่า ดิ แอมเปซโซ (Cortina D’ Ampezzo) หัวใจของเขตโดโลไมท์ แห่งแอลป์อิตาลี ตั้งอยู่เชิงเขาโดโลไมท์ บนเส้นทางงดงามด้วยภูมิประเทศ ป่าสน ทะเลสาบแสนสวย หุบเขากว้าง กระท่อมไม้ชาเลย์ ภูเขาหิมะ ยอดเขาหินปูน ยอดเขาที่ไร้หิมะ แต่รูปทรงแปลกตา เก็บภาพอย่างจุใจและเมื่อได้เวลาอันสมควรนำคณะกลับสู่เมืองอัลเป ดิ ซุยซี (Alpe Di Siusi)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day9

อัลเป ดิ ซุยซี – ทะเลสาบการ์ดา – เซอร์มิโอเน่ – แบร์กาโม

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านนั่งกระเช้า ขึ้นสู่บนเนินเขาที่เราเรียกว่า “อัลเป ดิ ซุยซี” (ALPE DI SIUSI) ชมวิวทิวทัศน์บนภูเขา ที่ได้ชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันน่าประหลาดตาของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขาแลงโกเฟวเป็นภาพประกอบ นำท่านนั่งกระเช้ากลับสู่ด้านล่าง

หมายเหตุ: การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

พาท่านออกเดินทางสู่ ริมทะเลสาบการ์ดา ผ่านชมเมืองน่ารักอย่าง “ริวา เดล การ์ดา” แล้วเดินทางเลาะริมทะเลสาบ ไปยังเมืองโบราณ “เซอร์มิโอเน่” ที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมเล็ก ๆ เข้าถึงโดยมีถนนแคบ ๆ เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญด้วยตั้งอยู่บนทำเลที่งดงาม เก็บภาพความประทับใจ ได้เวลาอันสมควร ออกเดินทางไปยังเมืองแบร์กาโม หัวเมืองสำคัญของแคว้นมิลาโน เพื่อเตรียมตัวเที่ยวเมืองมิลานในวันรุ่งขึ้น

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day10

เยี่ยมชมมิลาน – ดูไบ – กรุงเทพมหานคร

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเยี่ยมชมเมืองมิลาน เริ่มด้วยปราสาทสฟอร์ซ่า (Sforza Castle) ป้อมปราการแห่งมิลานที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยฟรานเซสโก้ สฟอร์ซาดยุคแห่งมิลาน นำท่านเดินชมจัตุรัสสกาล่าและรูปแกะสลัก “ลีโอนาโด ดาวินชี” จิตรกรเอกที่โด่งดังจากภาพโมนาลิซ่า และนำท่านถ่ายรูปและชมความยิ่งใหญ่ของ “มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน” (Duomo di Milano) มหาวิหารหินอ่อนแบบโกธิคที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยุโรป สร้างในปี ค.ศ.1386 ใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี มีความวิจิตรงดงาม ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนับกว่า 3,000 รูป บนสุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ ลานกว้างด้านหน้าของมหาวิหาร มีอนุสาวรีย์พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า และในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่ตั้งของแกลเลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งหรืออาคารอาเขตที่สวยงามที่สุดของอิตาลี

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

อิสระช้อปปิ้งที่เมืองมิลาน และเมื่อได้เวลาอันสมควรเดินทางไปยังท่าอากาศยานมัลเพนซ่า เพื่อทำการเช็คอิน การคืนภาษีสำหรับการช้อปปิ้ง จากนั้นเดินทางกลับโดยเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ โดยเที่ยวบินที่ EK092 เวลา 22.05 – 05.55 (+1) น.(ณ เวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ

Day11

ดูไบ – กรุงเทพมหานคร

เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบินที่ EK418 เวลา 08.45 – 18.15  น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศไทย)

ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

 

“ขอขอบพระคุณสำหรับความสนใจ และความไว้วางใจในการร่วมเดินทางไปเปิดประสบการณ์กับเรา แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางในภาคต่อไป ขอบคุณครับ/ค่ะ”

 


 

Do NOT follow this link or you will be banned from the site!