นำท่านเดินทางสู่เกาะอังกฤษ และเดินทางข้ามไปยังเกาะแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีธรรมชาติพร้อมสรรพ ถือเป็นดินแดนที่ร้องหาความสงบสุขเรื่อยมา เชิญชวนชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวและเยี่ยมชมกับสถานที่อันล้ำค่าของชาติ มีปราสาทเก่าแก่นับร้อยพัน บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรือง เข้มแข็ง ตั้งมั่น และรักชาติอย่างหาที่สุดไม่ได้ เพราะที่นี่คือ ไอร์แลนด์
Day1
นัดพบเพื่อทำการเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ
นัดหมายคณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ T ชั้น 4 (ประตู 9) โดยมีเจ้าหน้าที่สิริ ทัวร์เซ็นเตอร์คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน
Day2
กรุงเทพ ฯ – ดูไบ – กลาสโกว์ – เอดินบะระ
ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385 เวลา 01.35 – 04.45 น.(ณ เวลาท้องถิ่นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) รอต่อเครื่องเพื่อไปท่าอากาศยานนานาชาติกลาสโกว์ กรุงกลาสโกว์ ประเทศสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ โดยโดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK027 เวลา 07.50 – 12.35 น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศสกอตแลนด์) เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และได้สัมภาระเรียบร้อย เดินทางด้วยรถโค้ชปรับอากาศ เดินทางสู่เมืองเอดินบะระ เมืองหลวงแห่งแคว้นสกอตแลนด์ เมืองที่มีอดีตอันยาวนาน เป็นรากฐานของชาติสกอตแลนด์ มีวิวทิวทัศน์บวกกับสถาปัตยกรรมที่งดงามส่งผลให้ เมืองเอดินบะระได้รับยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย จากนั้นอิสระท่านเดินทางช้อปปิ้ง เยี่ยมชมย่านเมืองใหม่ บนถนนปริ้นเซสสตรีท ซึ่งมีห้างสรรพสินค้ามากมาย อาทิ H&M Jenner’s M&S เป็นต้น
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day3
เอดินบะระ – แคร์ไรอัน – เบลฟาสต์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำคณะเดินทางเยี่ยมชมเมืองเอดินบะระ โดยมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำเที่ยว เริ่มกันที่การชมวิวเมืองบนยอดเขาแคลตันฮิล จากนั้นผ่านชมพระราชวังโฮลี่รู้ด ผ่านถนนรอยัลไมล์ และชมอนุสาวรีย์สุนัขบ๊อบบี้ ผ่านร้านกาแฟชื่อดังที่ทาง เจ เค โรลลิ่ง ได้ทำการนั่งเขียนนวนิยายก้องโลกคือแฮร์รี่ พ็อตเตอร์เล่มแรกที่ร้านนี้ และเดินทางสู่ย่านเมืองเก่า เพื่อนำท่านเข้าชมปราสาทเอดินบะระ ซึ่งถือเป็นปราสาทโบราณอายุราว 1,000 ปี ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของสกอตแลนด์ และราชวงศ์สกอตแลนด์มาอย่างยาวนาน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำคณะเดินทางสู่ท่าเรือ “แคร์ไรอัน” ซึ่งถือเป็นท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญของสกอตแลนด์ โดยท่านสามารถออกเดินทางไปยังเมืองท่าอื่น ๆ ที่สำคัญของบริเวณใกล้เคียงได้ อาทิ ลิเวอร์พูล เซาแธมป์ตัน ไบร์ตัน ดับลิน และเบลฟาสต์ โดยคณะจะเดินทางด้วยเรือสำราญข้ามฟากขนาดใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที เพื่อเดินทางข้ามไปยังเมืองหลวงของแคว้นไอร์แลนด์เหนือ ได้แก่ เมืองเบลฟาสต์ เมื่อเดินทางถึงปลายทาง นำคณะเข้าสู่ที่พัก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
(รับประทานอาหารบนเรือ)
Day4
เยี่ยมชมเบลฟาสต์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำคณะรู้จักกับเรื่องราวตำนานของเมืองเบลฟาสต์ เมืองแห่งท่าเรือ ผ่านเรื่องราวโศกนาฏกรรมอันก้องโลก ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ไททานิค ภายในมีการนำเสนอเรื่องราวของเมืองเบลฟาสต์ตั้งแต่อดีตมาถึงจนปัจจุบัน รวมไปถึงความเป็นจิตวิญญาณแห่งแรงงานการท่าและการต่อเรือ โดยสร้างความภาคภูมิใจสูงสุดแห่งยุคให้กับเมือง ๆ นี้ ด้วยการสร้างเรือที่ได้รับฉายาว่าไม่มีวันจมอย่าง “ไททานิค”
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเยี่ยมชมเมืองเบลฟาสต์ เริ่มต้นด้วยการแวะชมศาลากลางของเมืองเบลฟาสต์ จากนั้นไปยังมหาวิทยาลัยควีนส์ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไอร์แลนด์ ผ่านชมย่านถนนฟอลส์ (Falls) และถนนแชงคิ้ล (Shankill) เพื่อเยี่ยมชมอนุสรณ์ที่ถูกตีแผ่ผ่านงานศิลปะข้างถนน บนส่วนหนึ่งของกำแพงเบลฟาสต์ ที่เคยถูกสร้างขึ้นเพื่อกั้นพื้นที่ในเมืองและแบ่งเมืองออกเป็นสองส่วน เนื่องจากเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น จากความต้องการแบ่งแยกดินแดนระหว่างฝั่งเหนือและฝั่งใต้ จากนั้นนำท่านตรงไปบริเวณควีนส์สแควร์ เพื่อเก็บภาพกับหอนาฬิกาชื่อดัง ได้แก่ “หอนาฬิการำลึกถึงเจ้าชายอัลเบิร์ต” และอิสระนำท่านช้อปปิ้ง ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง วิคตอเรียสแควร์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day5
เบลฟาสต์ – ลอนดอนเดอร์รี
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
ออกเดินทางไปยังแถบชนบทของแคว้นไอร์แลนด์เหนือ เริ่มต้นชมปราสาทเก่าแก่ คาร์ริคเฟอกัส (Carrickfergus) ที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่อไว้เป็นป้อมปราการสำหรับปกป้องดินแดนจากข้าศึกศัตรู และจากนั้นเดินทางไปยังภูมิภาคแอนทริมชมวิถีชนบทของชาวไอร์แลนด์เหนือ จากนั้นเดินทางไปยังบริเวณริมฝั่งทะเลทางตอนเหนือ เพื่อเดินเท้าสำรวจเส้นทางหาปลาของชาวท้องถิ่น ได้แก่ “คาร์ริค อะลิด” (Carrick a Rede) เดินเท้าผ่านสะพานแขวนข้ามหุบเขา และเพลิดเพลินเก็บภาพกับวิวทิวทัศน์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางไปชมมรดกโลกทางธรรมชาติ “ไจแอนท์ คอสเวย์” (Giant’s causeway) ชายหาดที่มีแท่งหินบะซอลต์โผล่ขึ้นมาและมีรูปร่างแปลกตาอย่างน่าอัศจรรย์ เดินทางต่อไปเพื่อเก็บภาพปราสาทดุนลูซ (Dunluce castle) ปราสาทเก่าแก่อายุราว 700 ปี ป้อมปราการของเจ้าเมือง และสุดท้ายเดินทางไปเก็บภาพกับไฮไลท์ของชนบทที่ The Dark Hedges หรือ อุโมงค์ต้นบีชอายุราว 200 ปี เมื่อได้เวลาอันสมควรเดินทางต่อไปยังเมืองลอนดอนเดอร์รี่
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day6
ลอนดอนเดอร์รี – กาลเวย์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำคณะเดินทางสำรวจเมืองเดอร์รี่ เมืองลำดับ 2 ของไอร์แลนด์เหนือ เมืองที่เคยถูกยกย่องให้เป็นมหานครแห่งใหม่ของไอร์แลนด์ แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างต้องหยุดชะงักไปเนื่องจากความไม่สงบภายในประเทศ เริ่มต้นสำรวจที่สะพานสันติภาพ ที่มีแม่น้ำฟอยล์ไหลผ่าน ซึ่งถือเป็นจุดถ่ายภาพสำคัญของเมือง จากนั้นชมคบเพลิงเปลวไฟแห่งสันติภาพ แสดงถึงความต้องการยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมือง เมื่อครั้งเคยมีปัญหาการแบ่งแยกดินแดน และบริเวณนั้นมีกิลด์ฮอล (Guildhall) หรือสถานที่นัดพบปะพูดคุยของพ่อค้าและผู้ปกครอง ด้านหน้ามีจัตุรัสหรือลานคนเมืองที่สำคัญที่ ใช้จัดงานพิธีสำคัญ ๆ ของเมือง จากนั้นเดินตรงต่อเข้าไปในย่านเมืองเก่าที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ เพื่อชมบริเวณอนุสรณ์ปลดปล่อยเดอร์รี่ของคนฝั่งใต้ (Free Derry corner) อิสระเดินเล่นถ่ายภาพบริเวณตัวย่านเมืองเก่า
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำคณะเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ เพื่อเข้าสู่เมืองกาลเวย์ เมืองท่าที่สำคัญของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ หรือไอร์แลนด์ในฝั่งใต้ ( 276 ก.ม. )
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day7
กาลเวย์ – คิลลาร์รี ฟยอร์ด – ไคล์มอร์ – กาลเวย์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำคณะเดินทางไปเยี่ยมชมบริเวณคาบสมุทรเรนวิรี (Renvyle) เพื่อเยี่ยมชมบรรยากาศของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของไอร์แลนด์ โดยคณะจะผ่านหมู่บ้าน ลีแนนและบริเวณอ่าวฟยอร์ดที่สวยงาม ตรงไปยังท่าเรือเพิ่อชมความงามของ “คิลลาร์รีฟยอร์ด” นำท่านเยี่ยมชมโบสถ์ไคล์มอร์ โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นในรูปแบบของวิคตอเรีย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอันเงียบสงบ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านไคล์มอร์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เมื่อได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับสู่เมืองกาลเวย์ เยี่ยมชมเมืองกาลเวย์โดยเริ่มต้นที่โบสถ์เซนต์นิโคลัส ที่มีอายุราว 700 ปี ซึ่งมีความเชื่อว่าก่อนที่โคลัมบัสจะเดินทางออกไปสำรวจโลกใหม่ เขาได้แวะพัก และขอพรที่โบสถ์แห่งนี้ พร้อมกับจดบันทึกลงในสมุดการเดินทางของเขาเป็นหลักฐาน จากนั้นอิสระเดินช้อปปิ้งย่านถนน ช้อปสตรีท ถือเป็นย่านที่มีชื่อเสียงของเมือง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day8
กาลเวย์ – หน้าผาโมเฮอร์ – เอนนิส – บันแรดดี – ลิมเมอร์ริก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
เดินทางเลาะริมชายฝั่งตะวันตกของไอร์แลนด์ เพื่อไปยังหน้าผามาเฮอร์ (Cliff of Mohor) เพื่อชมทัศนียภาพทางธรรมชาติ ท่านจะได้พบกับหน้าผาสูงริมชายฝั่งที่ทอดตัวเรียงรายอย่างสวยงาม ซึ่งบริเวณดังกล่าวถือเป็นจุดชมวิวยอดนิยม สามารถมองเห็นชายฝั่งของไอร์แลนด์ทางตะวันตกได้อย่างชัดเจน โดยบริเวณนั้นยังมีหอคอยโอไบรอัน ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของนักสำรวจในสมัยวิคตอเรียอีกด้วย อิสระเก็บภาพความประทับใจและเดินทางไปยังเมืองเอนนิสเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำคณะเดินทางสู่เมืองบันแรดดี้ (Bunratty) เพื่อเข้าชมปราสาทบันแรดดี้ ปราสาทเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 15 โดยสร้างในรูปแบบยุคกลาง หรือโรมาเนสก์ ถือเป็นป้อมปราการสำคัญทางตะวันตกอีกหนึ่งแห่งที่ท่านไม่ควรพลาดชม อิสระเดินสำรวจปราสาทและพื้นที่โดยรอบ เมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่เมืองลิมเมอร์ริก เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของไอร์แลนด์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day9
ลิมเมอร์ริก – บลานีย์ – คอร์ก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำคณะเยี่ยมชมเมืองลิมเมอร์ริก เมืองเก่าแก่สมัยยุคกลาง โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ปราสาทกษัตริย์จอห์นที่ 1 แห่งอังกฤษ อายุราว 800 ปี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำของย่านเมืองเก่าที่เรียกว่า “เกาะของกษัตริย์” โดยบริเวณโดยรอบนั้นมีสถานที่สำคัญ ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เหมาะแก่การถ่ายภาพและเดินสำรวจ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำคณะเดินทางสู่เมืองคอร์ก เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของไอร์แลนด์ โดยระหว่างทางจะนำท่านแวะไปยังเมืองบลานีย์ เมืองที่มีปราสาทเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งสร้างในสมัยยุคกลางหรือราวศตวรรษที่ 13 เดินขึ้นไปด้านบนของปราสาท เพื่อทำการจูบหินศักดิ์สิทธิ์ของปราสาท เพื่อขอพรให้ท่านโชคดี จากนั้นอิสระถ่ายภาพอย่างจุใจ และเดินทางต่อไปเมืองคอร์ก ฉายาเมืองแห่งกบฏ ถือว่าเมืองท่าที่มีลักษณะตามธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอร์แลนด์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day10
คอร์ก – คิลเคนนี่ – คิลแดร์ – ดับลิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
เดินทางผ่านชมเมืองคอร์ก ด้วยรถโค้ช โดยวิ่งลัดเลาะริมแม่น้ำลี ผ่านท่าเรือโฮแกน ท่าเรือโป๊ป และตัดเข้าถนนแกรนด์พาเหรด และแวะถ่ายภาพกับย่านถนนคนเดิน จากนั้นเดินทางสู่เมืองคิลเค็นนี เพื่อแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับปราสาทเก่าแก่ “คิลเค็นนี” ที่มีอายุราว 800 ปี อิสระเพลิดเพลินกับบรรยากาศสวนโดยรอบ ซึ่งถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งชาติไอร์แลนด์อีกด้วย และจากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองคิลแดร์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำคณะเดินทางสู่หมู่บ้านคิลแดร์เอาท์เล็ท (Kildare outlet) อิสระช้อปปิ้งกับสินค้าหลากหลาย เอาท์เล็ทแห่งนี้อยู่ในเครือเดียวกันกับ“ชิค เอาท์เล็ท” ซึ่งถือได้ว่าเป็นเครือเอาท์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดและมีร้านค้ามากที่สุดในยุโรป มีร้านค้ากว่า 200 ร้านค้าอยู่ในตัวศูนย์การค้ากลางแจ้ง อาทิ Calvin Klein, kate spade new York Samsonite, Gucci, Armani เป็นต้น เมื่อได้เวลาอันสมควรเดินทางต่อไปยังกรุงดับลิน เมืองหลวงแห่งชาติไอร์แลนด์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Day11
ดับลิน – ดูไบ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
เยี่ยมชมเมืองดับลิน โดยเริ่มที่ปราสาทดับลิน พระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์อังกฤษ จากนั้นต่อด้วยมหาวิหารเซนต์แพททริค โบสถ์ประจำชาติไอร์แลนด์ อิสระนำท่านเก็บภาพอย่างจุใจ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านถ่ายภาพกับทรินิตี้คอลเลจ มหาวิทยาลัยประจำชาติไอร์แลนด์ ที่ผลิตบุคลากรสำคัญ ๆ ของชาติ จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมโรงเบียร์ระดับโลกที่ “กินเนสเฮ้าส์” (Guinness Storehouse) ชมบรรยากาศของวิวด้านบนแบบ 360 องศา จากนั้นกลับเข้ามายังใจกลางเมืองดับลิน เดินช้อปปิ้งบนถนนกราฟตัน ถนนคนเดินย่านสำคัญของเมืองดับลิน มีทั้งสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าท้องถิ่นให้เลือกมากมาย
และเมื่อได้เวลาอันสมควรเดินทางไปยังท่าอากาศยานดับลิน เพื่อทำการเช็คอิน การคืนภาษีสำหรับการช้อปปิ้งและเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK164 เวลา 21.35 – 07.55 (+1) (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบเพื่อเดดินทางกลับสู่ประเทศไทย
Day12
ดูไบ – กรุงเทพมหานคร
ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK370 เวลา 11.45 – 21.15 น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศไทย) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
“ขอขอบพระคุณสำหรับความสนใจ และความไว้วางใจในการร่วมเดินทางไปเปิดประสบการณ์กับเรา แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางในภาคต่อไป ขอบคุณครับ/ค่ะ”