Day1
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – นครมิวนิก (เยอรมนี)
21.30 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ D16-19 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน
หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้
Day2
นครมิวนิก – พัสเซา – เชสกี้ ครุมลอฟ เมืองมรดกโลก
00.50 น. ออกเดินทางสู่นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบินที่ TG924
07.05 น. คณะถึงสนามบินนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว จากนั้น นำคณะออกเดินทางสู่เมืองพัสเซา (Passau) เมืองพรมแดนระหว่างเยอรมนีและออสเตรีย กล่าวกันว่าเมืองนี้เป็น “เมืองสามแคว” แห่งแคว้นบาวาเรีย เป็นจุดบรรจบกันระหว่างแม่น้ำ 3 สายอันได้แก่ ดานูบ (Danube), แม่น้ำอินน์ (Inn) และแม่น้ำอิซ (Ilz) เมืองเล็กๆแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พำนักของอดอฟ์ฮิตเลอร์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยฮิตเลอร์และครอบครัวเคยอาศัยอยู่ในพัสเซาถึง 4 ปี เที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมืองคือ วิหารเซนต์สตีเฟน อันเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของศิลปินชาวอิตาลี ซึ่งภายในวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บออร์แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดินเที่ยวชมเขตเมืองเก่ากับเมืองใหม่ เก็บภาพความคลาสสิคของตึกรามบ้านช่องของเขตเมืองเก่าทั้งโกธิคและบาร็อครวมไปถึง Veste Oberhaus อดีตป้อมปราการของบิชอฟ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองพัสเซา
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่เมืองมรดกโลก World Heritage เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมียที่เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เที่ยวชมเมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1992 เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง ได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแบบพาโนรามาบนปราสาทครุมลอฟ ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปร๊าก อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมเมืองโบราณตามอัธยาศัย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL ZLATY ANDEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day3
เชสกี้ คลุมลอฟ – เมืองน้ำแร่ คาร์โลวี วารี – กรุงปร๊าก
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองคาร์โลวีวารี หรืออีกชื่อหนึ่งคือเมืองคาร์ลบาด เป็นเมืองที่มีการค้นพบน้ำแร่โดยพระเจ้าคาร์ลที่ 4 ที่ดำรงตำแหน่งเป็นพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.30 น. นำท่านเที่ยวชมเมืองน้ำแร่แสนสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโบฮีเมีย ลักษณะเมืองอยู่ในหุบเขาสองฝั่งแม่น้ำเทปลา ดินแดนแห่งนี้เป็นที่ค้นพบแหล่งน้ำแร่ร้อนธรรม ชาติ และมีบ่อน้ำพุร้อนถึง 12 แห่ง ที่ร้อนที่สุดอยู่ในศูนย์นิทรรศการที่มีความร้อนถึง 72 องศาเซลเซียส ภายในจัดแสดงสายน้ำแร่ นักท่องเที่ยวสามารถชิมน้ำแร่ด้วยถ้วยชิมเฉพาะพิเศษ ที่ทำจากพอร์ซเลนในเมืองนี้เท่านั้น เมืองนี้เป็นที่นิยมในการเข้าคอร์สสปาเพื่อรักษาสุขภาพ เดินเที่ยวชมเมืองตึกอาคารเรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองเป็นอย่างยิ่ง ร้านค้าเรียงรายตลอดสองข้างทาง อิสระให้ท่านซื้อของที่ระลึกหรือหาซื้อเหล้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง Becherovka โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตจากสมุนไพรเป็นของที่ระลึก จนได้เวลาอันสมควรออกเดินทางต่อสู่กรุงปร๊าก เมืองแห่งปราสาทร้อยยอด ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสุดโรแมนติกอีกเมืองหนึ่งของโลก
18.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON PRAGUE CHARLES SQUARE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (พัก 2 คืน)
Day4
ปราสาทปร๊าก -เที่ยวชมเขตเมืองเก่า – สะพานชาร์ล – นาฬิกาดาราศาสตร์
07.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.30 น. นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ด้วยศิลปะแบบกอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก ว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันได้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเชค ชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาท และโบสถ์เซนต์ไวตัส ที่เด่นเป็นสง่า แต่ละลานกว้างประดับประดาไปด้วยน้ำพุ รูปปั้นนักบุญ โบสถ์เซนต์จอร์จ และคอนแวนต์ รวมทั้งโอลด์รอยัลพาเลซ และโกลเด้นเลน ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของช่างฝีมือในยุคสมัยก่อน เพื่อเล่นแร่แปรธาตุต่าง ๆ ให้เป็นทองคำ ที่จะทำให้ท่านย้อนไปถึงความยิ่งใหญ่ของโบฮีเมียในอดีต
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำท่านเดินสู่สะพานชาร์ล สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ ประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ ชาวคริสต์เชื่อว่า หากเดินผ่านสะพานแห่งนี้ ต้องขอพรจากนักบุญจอหน์แห่งเนโปมุข กรุงปร๊ากในยุคกลาง เคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ริมฝั่งแม่น้ำวัลตวา ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่า, พิพิธภัณฑ์, หอคอยดินปืนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม จนเข้าสู่จตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของวิหารตินส์ ให้ท่านได้เลือกซื้อเครื่องแก้วโบฮีเมีย “โมเซอร์” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและ ชมนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ เมื่อตีบอกเวลาจะมีหุ่นออกมาเต้นรำให้นักท่องเที่ยวได้ชม เป็นโบราณคู่บ้านคู่เมืองของกรุงปร๊าก อิสระให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย อาทิ มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ หรือร้านค้าแบรนด์เนมอื่น ๆ ใน Palladium Shopping Mall
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON PRAGUE CHARLES SQUARE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (พักคืนที่ 2 )
Day5
กรุงปร๊าก – บราติสลาวา (สโลวัค) – บูดาเปสต์ (ฮังการี)
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่กรุงบราติสลาวานครหลวงแห่งสาธารณรัฐสโลวัค เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่สุดของสโลวัค เป็นที่ตั้งของรัฐสภา, มหาวิทยาลัย, พิพิธภัณฑ์ รวมทั้งโรงละคร ที่มีการขยายเมืองอย่างไม่หยุดยั้ง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.00 น. นำท่านขึ้นสู่ที่ตั้งของปราสาทแห่งกรุงบราติสลาวา ตั้งอยู่บนเนินเขาคาร์เบเธียนเหนือลุ่มแม่น้ำดานูบ บันทึกภาพสวยจากด้านนอกของตัวปราสาท ตัวอาคารมีหอคอยสูง 80 เมตรทั้ง 4 ด้าน ผสมผสานไปด้วยศิลปะแบบกอธิค,เรอเนสซองส์และบาร็อค เข้าสู่เขตเมืองเก่าชมเมือง ณ จัตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี เก็บภาพประทับใจก่อนเดินทางสู่นครบูดาเปสต์ เมืองที่ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำดานูบแยกเป็นเมืองเก่าและใหม่ อันได้แก่เมืองบูดาและ เปสต์ อันเป็นที่มาของคำว่าบูดาเปสต์ นครที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบ
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HILTON BUDAPEST HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day6
บูดาเปสต์ – ล่องเรือแม่น้ำดานูบ – เวียนนา(ออสเตรีย) – หมู่บ้านกรีนซิ่ง
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เที่ยวชมนครบูดาเปสต์ นำชมจตุรัสฮีโร่ ที่รำลึกถึงการสร้างชาติ และการรอดพ้นจากการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ เลาะเลียบผ่านสวนสัตว์ และสวนสาธารณะอันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง ที่อาบน้ำสาธารณะแบบโรมัน ผ่านชมอาคารรัฐสภาที่สร้างในสไตล์แบบกอธิค โดดเด่นเป็นตระหง่าน แล้วข้ามสู่ฝั่งบูดา เพื่อขึ้นชมป้อมชาวประมง และโบสถ์แมทเธียส เลาะเลียบสู่คาสเซิลฮิลล์ ชมทิวทัศน์ของเมืองที่ถูกแยกออกเป็นสองฝั่ง นำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิดจำหน่ายเป็นของฝาก อาทิ ผ้าปัก เครื่องแก้วของที่ระลึกต่างๆ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำท่านสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการล่องเรือดานูบ ชมความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมแบบกอธิค เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย และรับการยกย่องว่าเป็นเมืองโรแมนติก บนสายน้ำแห่งหนึ่งของโลก ได้เวลาอันสมควรออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา นครหลวงแห่งดนตรี เมืองหลวงอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี ศูนย์กลางอำนาจของจักรวรรดิออสโตร-ฮังกาเรียน นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านกรีนซิ่ง หมู่บ้านพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทำไวน์สด
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเข้าสู่ที่พัก AUSTRIA TREND HOTEL SAVOYEN หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day7
กรุงเวียนนา – พระราชวังเชิงบรุนน์ – ภูมิภาคซาลส์กัมเมอร์กูท
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำเข้าชมความงามของพระราชวังเชิงบรุนน์ พระราชวังอันยิ่งใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ เข้าชมภายในกว่า 20 ห้องที่จัดแสดงไว้อย่างน่าชม ผ่านห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องแกลลอรี่ ห้องรับรอง (Great Hall) สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ริงสตราเซ่ ถนนสายวงแหวนที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ โรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่ และยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตและโอเปร่าตลอดปี พระราชวังฮอฟบูรก์อันยิ่ง ใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ทำการสำคัญของรัฐ ใกล้กันเป็นโรงเรียนสอนขี่ม้าแบบสเปน แล้วผ่านไปชมอาคารรัฐสภา ซิตี้ฮอลล์ ก่อนจะข้ามแม่น้ำดานูบสู่เขตเมืองใหม่ อันเป็นที่ตั้งขององค์การสหประชาชาติแห่งที่สองของยุโรป ให้ท่านได้ชมสายแม่น้ำดานูบใหม่และเก่า ที่มีความสำคัญต่อหลายประเทศในยุโรป
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งในย่านถนนคนเดินคาร์ทเนอร์สตรีท ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมในการนั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ และซัคเกอร์เค้กที่มีชื่อเสียงของเวียนนา สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ภูมิภาคซาลส์ซัมเมอกูท ที่มีทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กังเป็นเสน่ห์อันน่าติดตรึง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL SCALARIA ST.WOLFGANG หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day8
ทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กัง – ฮัลล์สตัทท์ – ซาลส์บวร์ก – มิวนิก – ช้อปปิ้ง – จัตุรัสมาเรียน
07.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.30 น. ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี
เดินเที่ยวชมเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรียและเป็นพื้นที่มรดกโลก UNESCO Cultural -Historical Heritage เพียงเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน แล้วเดินทางต่อสู่เมืองซาลส์บวร์ก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. ชมเมืองซาลส์บวร์ก เมืองที่มีชื่อเสียงจากการใช้สถานที่ต่าง ๆ ของเมืองในการถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อก้องโลก “เดอะซาวด์ออฟมิวสิค” เมืองที่แสนโรแมนติกที่มีทะเลสาบและภูเขาเป็นฉากสวย บ้านเกิดของคีตกวีเอกโมสาร์ต เมืองอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่สองฝั่งของแม่น้ำซาลซ่า ชมสวนมิราเบล ภายในพระราชวังเดิม ที่ตกแต่งพันธุ์ไม้หลากหลายสีสัน ข้ามฝั่งสู่เมืองเก่าที่มีปราสาทโฮเฮนซาลส์บวร์กตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา ผ่านไปชมบ้านเกิดคีตกวีเอกของโลกชาวออสเตรียน “โมสาร์ต” ที่สร้างผลงานทางด้านดนตรีไว้อย่างมากมาย นำท่านไปชมมหาวิหารประจำเมือง มหาวิหารแห่งซาลส์บวร์ก ที่สร้างขึ้นจากความร่ำรวยที่เกิดจากการทำเหมืองเกลือ ถนนเกรไทรเด้ที่มีชื่อเสียง ประดับประดาได้ด้วยป้ายบอกชื่อร้านค้าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น
15.30 น. ออกเดินทางสู่นครมิวนิก ซึ่งถือได้ว่าเป็นประตูของยุโรป เมืองมิวนิกหลากหลายด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่าง อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียอีกด้วย
อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง เริ่มจากโรงละครแห่งชาติ เป็นจุดเริ่มต้นของถนนสายสำคัญคือ ถนนแมกซิมิเลียน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ เป็นที่ตั้งร้านขายของแบรนด์เนมราคาแพง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว นักท่องเที่ยวมาเดินเล่นบนถนนสายนี้อาจได้กระทบไหล่ดาราหรือมหาเศรษฐีระดับโลก จัตุรัสมาเรียนใจกลางเมืองเก่า นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ที่จะชมตุ๊กตาเต้นรำ ที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่า เวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกวัน ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เลิศรสกับขาหมูเยอรมันต้นตำรับแท้
นำท่านเข้าสู่ที่พัก FOUR POINTS หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day9
เที่ยวชมเมืองมิวนิค – พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก – เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เที่ยวชมเมืองมิวนิค ที่มีความหลากหลายด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่าง เมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียแห่งนี้เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์วิทเทลสบาค และพัฒนาเมืองให้มีความสำคัญที่สุดทางตอนใต้ของเยอรมนี เป็นแหล่งผลิตเบียร์ ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ BMW นำท่านบันทึกภาพกับพระราชวังนิมเฟนเบิร์กหรือพระราชวังฤดูร้อน เข้าสู่เขตเมืองเก่า อาทิ โบสถ์ที่มีรูปโดมหัวหอม, ประตูชัย, ย่านมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่, หอสมุดแห่งชาติ, โรงละครโอเปร่า, เรสซิเด้นท์
10.45 น. ได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางสู่สนามบินนครมิวนิก เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
14.25 น. ออกเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG925
Day10
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
06.05 น. สายการบินไทยนำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
(หมายเหตุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อความเหมาะสมโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า
โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่นักท่องเที่ยวได้รับเป็นหลักฯ)