Day1
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – มิลาน (อิตาลี)
21.30 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ D 16-19 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน
หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้
Day2
มิลาน – เจนัว – อิตาเลียน ริเวียร่า – ปอร์โตฟิโน่ – ซานตา มาร์เกริตา
00.35 น. ออกเดินทางสู่ มิลาน ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ TG 940
07.10 น. ถึงสนามบินมาเพลซ่า นครมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว รถโค้ชปรับอากาศ พาคณะออกเดินทางสู่เมืองเจนัว (Genoa) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี เมืองบ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือผู้บุกเบิกและเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกา ถึงแม้เมืองเจนัวจะถูกบดบังรัศมีจากเมืองอื่นที่มีชื่อเสียงมากกว่าอย่างกรุงโรม หรือเวนิส แต่อย่าง ไรก็ตามเจนัว ก็เปรียบดังไข่มุกของประเทศอิตาลี เมืองสุดคลาสสิคแห่งนี้ประดับประดาไปด้วยตึกรามบ้านช่อง ตกแต่งด้วยสีสไตล์พาสเทล โบสถ์เก่า แก่ดูมีมนต์ขลัง ถนนบางสายบ่งบอกถึงอารยธรรมเก่ายุคโรมัน เมืองแห่งนี้เป็นดั่งศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมจากยุคอดีตมาสู่ปัจจุบัน เริ่มต้นการเดินเที่ยวชมเมืองจาก Galata Museo del Mare พิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งแรกของเมดิเตอเรเนียน, Porto Antico ท่าเรือเก่าเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Aquarium) ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป, เครื่องเล่น Lift Bigo ที่ท้าทายความหวาดเสียว. Palazzo San Giorgio งดงามด้วยภาพเขียนสีแบบเฟรสโก้บนผนังอาคาร เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักบุญเซนต์จอร์จปราบมังกร, Loggia di Banchi ตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าแห่งแรกของอิตาลี, Cathedral สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 12 และ 15 แด่นักบุญจอห์นเดอะแบบติสต์ ด้านหน้าเป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิค ผสม ผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสก์อย่างลงตัว, Porta Soprana ประตูสู่เมืองฝั่งตะวันออกที่จะพาท่านไปสู่บ้านของโคลัมบัส, Palazzo Ducale ที่ประทับของดอทจ์ ผู้ปกครองสาธารณรัฐเจนัว, Palazzi dei Rolli ได้รับการดูแลให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2006 และ Strada Nuova หรือถนนสายใหม่ มีกลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ดัดแปลงมาจากพระราช วังเก่า ได้รับการดูแลจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.00 น. นำคณะออกเดินทางสู่เมืองปอร์โตฟิโน (Portofino) ซึ่งเป็นเมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเขตจังหวัดเจนัว ล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนาดนามว่าเป็น “สวรรค์แห่งเมืองท่า” สำหรับนักท่องเที่ยว ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักประกอบด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่มโอบล้อมอ่าวที่มีท่าเรือยอร์ชจอดเต็มไปหมด จนได้เวลาอันสมควร นำคณะเดินทางสู่เมือง ซานตา มาร์เกริตา (Santa Margherita) อีกหนึ่งเมืองสวยริมฝั่งทะเลของแคว้นลิกูเรีย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL SANTA MARGHERITA LIGURE CONTINENTAL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day3
อิตาเลียนริเวียร่า – ซิงเคว เทเร่ เยือน 5 หมู่บ้านงามของอิตาลี
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านเที่ยวชมความงามริมชายฝั่งทะเลของแคว้นลิกูเรีย ที่เป็นย่านตากอากาศและรีสอร์ต ที่นี่งดงามจนได้สมญาว่าอิตาเลียนริเวียร่า มีลักษณะภูมิประเทศที่สวยงามแปลกตา มีภูเขาสูงชันขนาบอยู่ชายหาด ซึ่งบางจุดสูงชัน 90 องศา บางตอนของภูเขาลาดเทมาจนถึงชายหาด มีทั้งหาดทรายขาวสวยและหาดกรวดที่งามแปลกตา มีภูมิทัศน์ที่งดงามตามธรรมชาติ ผสมผลานกันของภูเขา ทะเล เมืองท่าคึกคัก และหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ เป็นภาพที่มีเสน่ห์ประทับใจของนักเดินทางทุกคนที่ได้มาเยือนอิตาเลียนริเวียร่า ขนาดที่นักประพันธ์เอกชาวอังกฤษ ชาร์ล ดิกเกนส์ กล่าวว่า ชายทะเลระหว่างเจนัวกับสเปเชียนั้นเป็นอิตาลีที่สวยที่สุด
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเทียว ซิงเคว เทเร่ (Cinque Terre) 5 หมู่บ้านสวยติดทะเลในแคว้นลิกูเรีย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตจังหวัดสเปเซีย (Province La Spezia) ทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกให้เป็น UNESCO WORLD HERITAGE เพราะชายหาด ทะเล ภูเขา ในแถบนั้นเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของประเทศอิตาลี Cinque Terre แปลว่า 5 แผ่นดิน หรือ แผ่นดินทั้ง 5 ในภาษาอังกฤษ Five Lands พาท่านเยือนเมืองมอนเตรอสโซ อัล มาเร (Monterosso al Mare) / เมืองเวร์นาซซา (Vernazza) / เมืองคอร์นีเลย (Corniglia) / เมืองมานาโรลา (Manarola) และ เมืองริโอมัจจอร์เร (Riomaggiore) จนได้เวลาอันสมควร นำคณะเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL SANTA MARGHERITA LIGURE CONTINENTAL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day4
ซานตา มาร์เกริตา – นครฟลอเร้นซ์ – จตุรัสซินญอเรีย – นั่งรถไฟด่วนสู่นาโปลี
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. นำคณะเข้าสู่เมืองเก่าของนครฟลอเร้นซ์ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ และเป็นเมืองที่ไม่อนุญาตให้รถโค้ชเข้าไปในเขตเมือง มีมหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร หรือ Duomo แห่งนครฟลอเร้นซ์เป็นศูนย์กลาง ใกล้กันเป็นจตุรัสซินญอเรีย เดิมเป็นที่ตั้งรูปปั้นเดวิดของแท้มานานกว่า 3 ศตวรรษ ในปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในแกลลอเรีย อะเคเดมี ผ่านชมพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี ที่เก็บงานศิลปะล้ำค่าในยุคกลางใกล้ ชมสะพานอันเก่าแก่เวคคิโอ สะพานแห่งแรกที่ข้ามแม่น้ำอาร์โน จากนั้นรถโค้ชนำท่านชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแบบพาโนรามา ณ จตุรัสไมเคิลแองเจโล
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
16.00 น. นำคณะเดินทางสู่สถานีรถไฟ และเดินทางสู่ตอนใต้ของประเทศในเขตคาบสมุทรอิตาลีด้วยรถไฟด่วน
19.15 น. คณะเดินทางถึงเมืองนาโปลี หรือ เมืองเนเปิ้ล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญทางตอนใต้ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าของเรือสำราญท่องเที่ยวในเขตเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญ
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก STARHOTELS TERMINUS NAPLES หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day5
นาโปลี – พิพิธภัณฑ์ปอมเปอี – นั่งเรือสู่เกาะคาปรี (พักบนเกาะคาปรี)
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. นำคณะเดินทางสู่เมืองปอมเปอี นำท่านเข้าชมเขตเมืองเก่าที่ได้รับการจัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑ์เมืองปอมเปอี (POMPEI) เมืองที่ถูกทับถมจมอยู่ใต้ดินกว่า 1,500 ปี เนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟวิชูเวียส ชมสภาพของเมืองที่ขุดค้นขึ้นมา
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำคณะเดินทางกลับสู่ท่าเรือเมืองนาโปลี เพื่อลงเรือสู่เกาะคาปรี เกาะเล็กๆที่มีธรรมชาติที่สวยงามเป็นสถานที่ตากอากาศของบุคคลสำคัญๆ มาช้านานซึ่งรายได้หลักของเกาะนี้มาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นำท่านเที่ยวชมชุมชนคาปรีอันเก่าแก่ตั้งรกรากมาแต่บรรพบุรุษ จนกลายเป็นศูนย์กลางของเกาะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและตากอากาศ ร้านรวงเปิดให้บริการนักช้อปปิ้งได้เลือกสรร
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL SYRENE CAPRI หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day6
เกาะคาปรี – ถ้ำบลูกร็อตโต้ – ซอเรนโต้
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
10.00 น. นำคณะเปลี่ยนลงเรือเล็กไปชมถ้ำบลูกร็อตโต้ ที่มีความงดงามอย่างมากและมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก ถ้ำน้ำลอดที่มีการกระทบของแสงกับน้ำทะเลสีคราม ทำให้ภายในบริเวณถ้ำประกายไปด้วยแสงสีน้ำเงินจึงเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว (ทั้งนี้การเข้าชมภายในถ้ำขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละวัน)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
15.15 น. ได้เวลานำคณะลงเรือ Jet นำท่านกลับสู่ฝั่งที่เมืองซอเรนโต้ (Sorrento) เมืองชายทะเลที่มีตัวเมืองเรียงรายตามแนวของผาหินสูง ทิวทัศน์สวยงามเหล่านี้ได้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว จนเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HILTON SORRENTO PALACE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day7
ซอเรนโต้ – โพสิตาโน่ – อะมัลฟี่ – เที่ยวชมเมืองอามาลฟี่ – เซอร์ลาโน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำคณะเดินทางเลาะเลียบชายฝั่งทะเลไทเลเนียน เข้าสู่อดีตเขตสาธารณรัฐอะมัลฟี่ ซึ่งเป็นสาธารณรัฐทางทะเลที่เคยยิ่งใหญ่ ไม่แพ้ เวนิส ปิซ่า และ เจนัว เข้าสู่เมืองท่า โพสิตาโน่ นำท่านเปลี่ยนเป็นรถเล็ก เพื่อลงไปชมตัวเมืองเก่า อย่างที่ได้รับการขนานนามว่า บ้านเรือนในแนวตั้ง เนื่องจากเมืองโพสิตาโน่นี้เป็นเมืองแสนสวยที่สร้างบ้านเรียงรายจากหน้าผาที่สูงชัน ชมศูนย์กลางของเมือง เดินลงไปชมโบสถ์และช้อปปิ้งผ้าลินินและงานฝีมืออันเป็นของฝากที่ขี้นชื่อของเมืองนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอะมัลฟี ซึ่งเส้นทางริมทะเลสวยนี้ได้รับการกล่าวขานและยกย่องว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อะมัลฟี่โคสท์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ เมื่อปี ค.ศ.1997 โดยชายฝั่งนี้โด่งดังจากฉากในนวนิยายที่นักเขียนอเมริกา จอห์น สไตน์แบ็ค เส้นทางจะลดเลี้ยว ไปตามหน้าผาสูงบ้าง ต่ำบ้าง ผ่านไร่มะนาว ไร่มะกอก และไร่ส้ม จนเข้าสู่เมืองอะมัลฟี่
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำท่านเที่ยวชมความงามของเมืองอะมัลฟี เข้าชมโบสถ์ประจำเมือง (The Cathedral of Amalfi) ที่สร้างเพื่อระลึกเซนต์แอนด์ดรู การเข้าชมด้านในมีทั้งหมดสี่ส่วนด้วยกัน คือ The Cloister of Paradise, The Basilica of The Crucifix, The Crypt, The Cathedral ชื่นชมศิลปะผสมแบบมัวส์และโรมันเนสก์ด้านนอก ส่วนภายในมีการตกแต่งแบบบาร็อค ชมภาพพระแม่มารีและพระบุตรที่สะกดทุกสายตา ชมสุสานใต้ดินที่สวยงามและแสดงถึงความยิ่งใหญ่สมเป็นโบสถ์ประจำเมือง อิสระให้เดินเล่น เพื่อชมบ้านเมืองและวิถีชีวิต
จนได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางสู่เมืองซาเลอร์โน ในแคว้นกัมปาเนีย (Campania) ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL SALERNO EST ARECHI หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day8
เซอร์ลาโน – นครรัฐวาติกัน – พิพิธภัณฑ์วาติกัน – กรุงโรม
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. แล้วออกเดินทางต่อสู่กรุงโรม เมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ์โรมันมีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำคณะเดินทางสู่นครวาติกัน ซึ่งเป็นรัฐอิสระ และศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกัน ซึ่งเป็นที่รวบรวมผลงานทางศิลปะที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้ยังมีห้องแสดงศิลปะการตกแต่งฝาผนังรูปสลักแบบคลาสสิค และงานของนักวาดภาพคนสำคัญๆ ของอิตาลีในสมัยกลางและสมัยเรอเนสซองส์ อาทิจ็อตโต (Giotto), ฟรา แองเจลิโก (Fra Angelico), ฟิลิปโป ลิปปี (Filippo Lippi) และโบสถ์ซิสทีน (Sistine Chapel) ซึ่งเป็นผลงานของไมเคิลแองเจโลที่วาดภาพเขียนสีเฟรสโก้ที่โด่งดังที่สุดของโลกคือ The Last Judgement แล้วไปชมความอลังการของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ได้รับการตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลักเฟียต้า ผลงานชิ้นเอกของไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดยแบร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ที่หาชมได้ยาก ซึ่งปัจจุบันล้วนแต่เป็นสิ่งที่สำคัญล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก H10 ROMA CITTA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day9
เที่ยวกรุงโรม – โคลอสเซียม – จตุรัสนาโวน่า – น้ำพุจตุมหานที – น้ำพุเทรวี่ – บันไดสเปน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่าน เข้าชมสนามกีฬาโคลอสเซียม สิ่งก่อสร้างที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสนามกีฬายักษ์ที่จุคนได้กว่า 50,000 คน แล้วพาท่านไปบันทึกภาพกับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ผ่านชมอนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล หรือพระบิดาของชาวอิตาเลียน ชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิ์โรมันที่โรมันฟอรั่ม อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่มีอายุพอๆ กันแต่ยังคงสภาพดีมาจนปัจจุบันคือ วิหารแพนธีออน อายุ 2,000 กว่าปี ยังเป็นอาคารในยุคโรมันที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งที่ยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน จากนั้นเยือน จตุรัสนาโวนา (Piazza Navona) จตุรัสที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรม เดิมเคยเป็นสนามกีฬาที่ไว้ใช้แข่งม้า กลางจตุรัสเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิสก์จากอียิป์ ตั้งอยู่หน้าโบสถ์เซนต์แอกเนสอินอะโกนี และน้ำพุจตุมหานที (Fountain of the Four Rivers) ซึ่งแต่ละมุมจะมีรูปปั้นเป็นตัวแทนแม่น้ำสำคัญ 4 สาย จาก 4 ทวีป ได้แก่ แม่น้ำคงคา แม่น้ำดานูบ แม่น้ำไนล์ และแม่น้ำ พลาต้า ซึ่งจานโลเรนโซ แบร์นินี ศิลปินฝีมือเยี่ยมของอิตาลีเป็นผู้ออกแบบ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำคณะไปชมน้ำพุเทรวี่ ผลงานมาสเตอร์พีซของนิโคลาส ซัลวี ที่มาของเพลง “ทรีคอยน์ออฟเดอะฟาวด์เท่น” ที่โด่งดังในอดีต ซึ่งนักท่องเที่ยวมีความเชื่อว่าหากโยนเหรียญอธิฐานไว้จะได้กลับมากรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง เข้าสู่จตุรัสบันไดสเปน แหล่งพบปะของหนุ่มสาวชาวอิตาเลียนยามว่าง จนกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังเรียงรายไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมของอิตาลี
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก H10 ROMA CITTA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day10
เดินทางสู่สนามบิน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
10.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินลีโอนาร์โด ดาวินชี เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
13.50 น. ออกเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 945
Day11
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
06.05 น. สายการบินไทยนำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
(หมายเหตุ โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการจัดโปรแกรมของแต่ละวันเดินทางจะไม่เหมือนกัน โปรแกรมท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ครบถ้วน จะส่งให้ท่าน 7 วันก่อนการเดินทางเท่านั้น)