Day1
สนามบินสุวรรณภูมิ (ประเทศไทย)
08.30 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ขาออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเคาน์เตอร์ P สายการบินแอร์ ฟรานซ์ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน
11.30 น. ออกเดินทางโดยสายการบินบินแอร์ ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ AF165
18.25 น. ถึงสนามบินชาร์ล เดอร์ โกลด์ (ประเทศฝรั่งเศส) เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน
23.35 น. ออกเดินทางสู่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล สายการบินบินแอร์ ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ AF442
Day2
กรุงเทพฯ – ปารีส (ฝรั่งเศส) – ริโอ เดอจาเนโร (บราซิล)
หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 30 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ มิอาจรับผิดชอบได้
08.10 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติแอนโตนิโอ คาร์ลอส โจบิม นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล เมืองริโอ เดจาเนโร หรือ “แม่น้ำแห่งเดือนมกราคม” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยชายหาดชื่อดัง โคปาคาบานา และ อีปาเนมา ที่คนทั่วโลกกล่าวขวัญถึง รวมถึงเทศกาลคาร์นิวัล เทศกาลรื่นเริงประจำปีของชาวแซมบ้า ที่โลกต้องตะลึงไปกับขบวนพาเหรดอันอลังการที่สุดที่โลกเคยมีมา นำท่านผ่านย่านชุมชนแออัดที่ ฟาเวลา (Favela) เป็นภาพของบ้านเรือนปลูกไล่กันไปบนภูเขาหลายร้อยหลายพันหลัง ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ นักเตะชื่อดังหลายคนก็เติบโตมาจากที่นี่ทั้ง โรนัลโด, โรนัลดินโญ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหาร นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก
17.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเดินทางเข้าสู่ Sambodromo ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานคาร์นิวัล ซึ่งเป็นเทศกาลรื่นเริงประจำปีของชาวแซมบ้า ที่โลกต้องตะลึงไปกับขบวนพาเหรดอันอลังการที่สุดที่โลกเคยมีมา พาท่านชมขบวนพาเหรดอันงดงามตระการตา และร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้แข่งขันขบวนพาเหรด 6 ทีมสุดท้าย 2018 RIO CARNIVAL CHAMPION’S PARADE (แจ้งผลการตัดสินผู้ชนะเวลาประมาณ 02.25-03.50 น.)
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SOFITEL RIO DE JANEIRO IPANEMA HOTEL 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day3
ริโอ เดจาเนโร – รูปปั้นพระเยซูคริสต์ – ซูการ์โลฟ – สนามฟุตบอลมาราคานา – ฟาเวโล
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านขึ้นสู่ยอดเขากอร์โกวาโด จุดหมายปลายทางฝันของนักท่องเที่ยวที่ยืนคู่กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นก็คือ “รูปปั้นพระเยซูคริสต์” แห่งเมืองริโอ เดจาเนโร (Rio de Janeiro) สัญลักษณ์อันโด่งดังของบราซิล ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ นำคณะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาซูการ์โลฟ (Pao De Acucar) หรือภูเขาก้อนน้ำตาลที่ตั้งอยู่เคียงข้างกับยอดเขากอร์โกวาโด แต่มีความสูงเพียงครึ่งหนึ่งของรูปปั้นพระเยซูคริสต์ เพื่อไปชมทัศนียภาพแบบ 360 องศาของเมืองริโอ
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำคณะสู่ เอสตาดิโอ โด มาราคานา สนามฟุตบอลขนาดยักษ์จุคนได้ 103,022 คน เพื่อให้ท่านได้ซื้อของที่ระลึกจากทีมบราซิล เมืองริโอ มีสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ ต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศทั้งในแถบลาตินอเมริกา อเมริกา และยุโรป ซึ่งมีการจัดแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ และมีจุดเด่นอยู่ที่ บัววิกตอเรียขนาดใหญ่ และทิวแถวของต้นปาล์มที่ถูกไว้เป็นแนวสวยงาม ท่ามกลางความเขียวขจี จากนั้นนำคณะเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HILTON RIO DE JANEIRO COPACABANA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day4
ริโอ เดจาเนโร – บินสู่เมืองอิกวาซู – น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล)
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหาร นำคณะเดินทาสู่สนามบิน
11.55 น. ออกเดินทางสู่เมืองอิกวาซู โดยสายการบิน LATAM Airline เที่ยวบิน JJ4568
***ไม่มีอาหารกลางวันบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน***
14.04 น. ถึงสนามบิน Cataratas International airport รถรอรับคณะแล้วเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกอิกวาซู 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ ครอบคลุมพรมแดนระหว่างประเทศอาร์เจนตินาและบราซิล
นำท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) มีต้นกำเนิดจากแม่น้ำ อิกวาซูที่ไหลมาจากที่ราบสูงปารานา และตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบเกินเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มหึมา ถึงแม้น้ำตกโดยส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งอาร์เจนตินา แต่ท่านสามารถสัมผัสสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดด้วยทางเดินสะพานไม้ ที่ออกแบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ชุ่มฉ่ำไปกับสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดที่สุด ละอองของสายน้ำในช่วงหน้าร้อนจะมีปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำให้ท่านได้ชม (ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะขึ้น Helicopter ชมวิวทิวทัศน์และความยิ่งใหญ่บนมุมสูง ค่าเฮลิคอปเตอร์ 120 US$ / ท่าน กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก IGUAZU GRAND Resort Spa & Casino หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day5
ชมน้ำตกอิกัวสุ (ฝั่งอาร์เจนตินา) – ล่องเรือชมน้ำตก – ท่องป่าร้อนชื้น
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. หลังอาหาร นำคณะเดินทางข้ามพรมแดนสู่ฝั่งอาร์เจนตินา นำชมน้ำตกอิกวาซู (ฝั่งอาร์เจนตินา) ฝั่งด้านนี้หนาแน่นไปด้วยป่าร้อนชื้น และกิจกรรมในการเที่ยวชมน้ำตกอย่างมากมาย น้ำตกอิกวาซู ประกอบไปด้วยน้ำตก 275 แห่ง สูงระหว่าง 60-82 เมตร แต่ละน้ำตกมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ ขนาดของน้ำตกกว้างประมาณ 4 ก.ม. นับเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลก ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่า 30 เท่า น้ำตกส่วนใหญ่อยู่ในอาร์เจนตินาราว 90% พื้นที่ป่าริมน้ำตกเป็นเขตคุ้ม ครองรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตร้อนที่มีอยู่อย่างชุกชุม เช่น นกไทนามัส แมวป่าโอเซล เสือจากัวร์ สมเสร็จ เพ็คคารี และสัตว์นานาชนิดอีกมากมาย เส้นทางเดินชมน้ำตกจุดสูงสุดคือ Devil’s Throat จุดที่ท่านจะยืนเหนือน้ำตก สัมผัสละอองน้ำจากด้านบน และตื่นตาตื่นใจกับต้นกำเนิดของสายน้ำตก จากนั้นเปลี่ยนวิวทิวทัศน์บนเส้นทางเดิน Upper Trail และ Lower Trail ที่ให้ความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่ท่านรอคอย “ล่องเรือชมน้ำตก” เรือขนาดความจุ 30 ที่นั่ง แล่นไปตามสายน้ำจนเข้าสู่เขตม่านน้ำตก ที่ฝ่าด่านของสายน้ำอันเชี่ยวกราก และสายน้ำตกที่ส่งเสียงกึกก้องมหึมา ที่ท่านไม่ควรพลาดกับประสบการณ์ดีๆ ของความงามแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางกลับสู่ที่พักโรงแรม
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก IGUAZU GRAND Resort Spa & Casino หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day6
เมืองอิกัวสุ – บินสู่ลิม่า (แวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศบราซิล)
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
อิสระตามอัธยาศัย จนกระทั่งเวลาเช็คเอ๊าท์
11.13 น. ออกเดินทางสู่นครลิม่า (Lima) ประเทศเปรู โดยสายการบิน LATAM Airline Brasil เที่ยวบินที่ JJ3558 (แวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวรูลโฮส นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล)
***ไม่มีอาหารกลางวันบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน***
13.00 น. คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกัวรูลโฮส นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้เวลาเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางสู่ประเทศเปรู
***ไม่มีอาหารค่ำบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน***
18.55 น. ออกเดินทางสู่นครลิม่า โดยสายการบิน LATAM Airline Peru เที่ยวบินที่ JJ8146
22.00 น. ถึงสนามบิน Jorge Chavez International Airport ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR LIMA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day7
ลิม่า (เปรู) – คุสโก – วิหารสุริยะเทพ – ป้อมปราการอินคา
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองคุสโก โดยสายการบิน LATAM Peru Airline เที่ยวบินที่ LA2047 (Airbus 320-200)
10.50 น. ถึงสนามบินเมืองคุสโก (Cuzco) อดีตเมืองหลวงศูนย์กลางอาณาจักรอินคา บนเทือกเขาแอนดีส ที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 3,400 เมตร คุสโกเป็นเมืองที่สวยและมีเสน่ห์ในตัวเอง อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคาที่เรียกกันว่า “อินคาเทรล”
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เที่ยวชมเมืองคุสโก เสน่ห์เมืองเก่าผสมผสานอารยธรรมที่แตกต่าง เมืองนี้ตั้งถิ่นฐานมาเป็นพันปีและเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดโดยชาวเผ่าอินคา เข้ามามีอำนาจโดยใช้เมืองคุสโก (ตามภาษาเกอชัว (Quechua) ภาษาของชาวอินคาโบราณแปลว่า “สะดือของโลก”) เป็นศูนย์กลางอำนาจขยายอิทธิพลไปทั่วเทือกเขาแอนดีส ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงสิ้นสุดลงในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยการรุกรานจากสเปนในช่วงล่าอาณานิคม ชมสถาปัตยกรรมยุคก่อนอินคา ,อินคา ,สเปน และรวมไปถึงอารยธรรมสมัยใหม่ ปลาซ่าเดออาร์มัส (Plaza de Armas) จัตุรัสกลางเมือง แหล่งพบปะของชาวอินคา ตรงกลางเป็นสวนสาธารณะ มีน้ำพุ รูปปั้น ล้อมรอบด้วยอาคารเก่า ๆ เรียงรายด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่ทันสมัย บรรยากาศย้อนยุคแบบชิลล์เอ๊าท์ ชมโบสถ์แห่งเมือง Cathedral of Cusco ก่อสร้างขึ้นในยุคอาณานิคม สถาปัตยกรรมแบบโกธิค โบสถ์แห่งนี้ก็สร้างขึ้นบนฐานของราชวังเดิมของชาวอินคาและยุคก่อนอินคา ชมโบสถ์ซานโตโดมิงโก้ (Church of Santo Domingo) โบสถ์แห่งนี้สร้างทับลงบนศาสนสถานดั้งเดิมที่เรียกว่า โคริกันชา (Qoricancha) วิหารแห่งสุริยา หรือ Temple of the Sun ของชาวอินคา ซึ่งเดิมเรียกว่า อินติคันชา (Inti Kancha) หรือวิหารทองคำ ที่ชาวอินคาใช้บวงสรวงสุริยะเทพ ว่ากันว่าในยุคอินคานั้น โครงสร้างหินขนาดใหญ่ ที่ทำเป็นห้อง ๆ เหล่านี้ฉาบทาไปด้วยทองคำล้วน ๆ แล้วพาท่านออกนอกตัวเมืองเพื่อชมโบราณสถานแซคไซวามาน (Sacsayhuaman) อดีตป้อมปราการขนาดใหญ่ สร้างจากหินแกรนิต เรียงเข้ามุมกันหินแต่ละก้อนหนัก 90-120 ตัน ไม่มีทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง (ก่อนยุคอินคา) และสร้างไว้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร หลักฐานทางโบราณคดีบ่งบอกว่า ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ปัจจุบันมีงานเทศกาลเฉลิมฉลองทุก ๆ ปีในวันที่ 24 มิถุนายน โดยมีผู้คนแต่งกายชุดพื้นเมืองออกมาเต้นรำกันอย่างงดงาม
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR CUSCO (PALACIO DEL INKA HOTEL CUSCO) หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day8
คุสโก – มาชูปิกชู (เมืองมรดกโลก) – คุสโก
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
07.00 น. ออกเดินทางสู่มาชู ปิกชู ได้รับการโหวตให้เป็น New7Wonders of the world และ ได้จัดอันดับแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดในโลก ทั้งความยิ่งใหญ่ และความสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณของชาวอินคา มาชูปิกชู เมืองสาบสูญแห่งอินคา นครกลางฟ้าแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาแอนเดส ประเทศเปรู เนื้อที่ประมาณ 13 ตร.กม.ของหุบเขาอุรุบัมบ้า ที่ความสูง 2,430 เมตรระดับน้ำทะเล เป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต ถูกทิ้งร้างเอาไว้และถูกปกคลุมอยู่ด้วยป่าดงดิบนานนับศตวรรษ นักผจญภัยชาวอเมริกัน ฮีราม บิงแฮม ได้ถูกพาไปหามันในปีค.ศ.1911 โดยเด็กหนุ่มท้องถิ่นวัยเพียง 10 ขวบ ปัจจุบันเชื่อกันว่า ที่นี่เป็นที่พักผ่อนของชนชั้นสูงชาวอินคา คาดว่าสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1450 โดยจักรพรรดิปาชากูตีของชาวอินคา มาชูปิกชู ถูกปล่อยทิ้งไว้นับร้อยปี เพราะชาวสเปนได้เข้ามาล่าอาณานิคม และฆ่าชาวเปรูและชาวอินคา เมืองอินคาเลยถูกปล่อยร้างไว้ จนกระทั่งฮีรามมาค้นพบ แล้วแพร่กระจายข่าวไปทั่วโลก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำท่านเข้าชมนครที่สาบสูญ “The Lost City of the Incas” โบราณสถานถูกสร้างเป็นลักษณะขั้นบันไดไล่ลงมาตามความชันของหุบเขา แต่ละชั้นสูง 3-4 เมตร มีจำนวนทั้งหมด 40 ชั้นซึ่งถูกเชื่อมถึงกันด้วยบันไดกว่า 3,000 ขั้น และมีสิ่งก่อสร้างซึ่งสร้างด้วยหินกว่า 200 หลัง สมมติฐานจากนักสำรวจและผู้ค้นพบ เปิดเผยว่า มาชูปิกชู เคยถูกปกครองโดยนักบวชของลัทธิบูชาสุริยะ และมีการทำพิธีถวายหญิงสาวเป็นเครื่องสังเวยแก่พระเจ้าของพวกเขา ที่นี่ยังเป็นป้อมปราการสุดท้ายของชาวอินคาที่ต่อสู้กับชาวสเปนอีกด้วย อีกสมมติฐานหนึ่งว่า มาชูปิกชู น่าจะเป็นที่พักตากอากาศสำหรับเชื้อพระวงศ์ในฤดูร้อน ประกอบด้วยวัง มีวิหารและคฤหาสน์ ล้อมอยู่รอบ ๆ รวมไปถึงที่พักของผู้ทำงานในสถานที่นั้น ๆ ด้วย คาดว่าน่าจะมีผู้อาศัยอยู่ไม่เกิน 750 คน จนกระทั่งถูกชาวสเปนมายึดดินแดนในอีก 80 ปีต่อมา
18.00 น. คณะเดินทางกลับเมืองคุสโก้
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR CUSCO (PALACIO DEL INKA HOTEL CUSCO) หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day9
คุสโก – ลิม่า – เที่ยวชมเมืองหลวงของเปรู
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. หลังอาหาร นำคณะออกเดินทางสู่สนามบิน
10.20 น. ออกเดินทางสู่เมืองลิม่า เมืองหลวงของประเทศเปรู โดยเที่ยวบินที่ LA2004 (Airbus 319)
11.50 น. ถึงสนามบินเมืองลิม่า รถปรับอากาศรอรับคณะแล้วออกเดินทางสู่ภัตตาคาร
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เที่ยวกรุงลิมา (Lima) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเปรู ศูนย์กลางการขนส่ง การเงิน อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย ลิมาตั้งขึ้นโดยฟรันซิสโก ปีซาร์โร ผู้พิชิตชาวสเปน ในปีค.ศ. 1535 โดยให้ชื่อว่า นครแห่งกษัตริย์ (City of Kings) ลิมา เป็นเมืองหลวงมรดกโลกแห่งเปรู และนครหลวงที่สำคัญที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศเปรูมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของอเมริกาใต้ และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอเมซอน เป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านชาติพันธุ์ ชนพื้นเมืองเชื้อสายสเปนผสมกับอินเดียนแดง, อัฟริกา, จีน, และญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งรกราก นำวัฒนธรรมมาเผยแพร่อย่างลึกซึ้ง นำท่านเข้าสู่ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เมืองลิมา” (Historic Centre of Lima) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองลิมา ประกอบไปด้วยเหล่าอาคาร รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญหลายแห่ง ซึ่งต่อมาได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก ในปี 1988 ปลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสเก่าแก่จุดกำเนิดของเมือง รอบจัตุรัสนั้นเรียงรายไปด้วยเหล่าอาคารที่มีสำคัญ อาทิทำเนียบประธานาธิบดี, วังอาร์คบิชอป (Archbishop Palace), วิหารแห่งลิมา (Lima Cathedral) วิหารคาทอลิกที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งสเปนเข้ามายึดครอง, ศาลาเทศบาลเมือง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม แล้วนำคณะเข้าสู่ที่พักโรงแรมย่านมิราฟอเรส (Miraflores) เมืองตากอากาศที่สุดแสนโรแมนติค ริมมหาสมุทรแปซิฟิก ร่มรื่นด้วยสวนสาธารณะและชายหาดที่งดงาม
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR LIMA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day10
ลิม่า – บัวโนสไอเรส
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
15.50 น. ออกเดินทางสู่เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า โดยเที่ยวบินที่ LA7901 (Airbus 320)
***ไม่มีอาหารกลางวันบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน***
17.45 น. ถึงสนามบิน Aeroparque Internacional Jorge Newbery
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and
CONVENTION CENTER หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day11
บัวโนสไอเรส – ลาโบกา – ปลาซา มายอร์ – ซาน เตลโม – ชมเต้นลำแทงโก้
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. นำคณะเที่ยวชมกรุงบัวโนสไอเรส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำริโอ เดอ ลาพลาตา (Rio de la Plata) ย่านลาโบกา (La Boca) จุดกำเนิดของทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โบคาจูเนียร์ และนักฟุตบอลระดับโลกอย่าง ดิเอโก้ มาราโดนา เป็นย่านที่มีสีสันมากที่สุด ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง (กราฟฟิตี) ถนนคนเดิน, สโมสรแทงโก เข้าสู่ปลาซ่า มายอร์ ที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี หรือที่มีชื่อเรียกว่า “ลา กาซาโร ซาดา” (casa rosada) แปลว่าบ้านสีชมพู ถนน Avenida 9 de Julio ที่ตั้งของเสาโอบิลิกส์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1936 เป็นสถานที่ที่ธงอาร์เจนตินาถูกเชิญสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก มหาวิหารโรเซอแรตต้า (The Metropolitan Cathedral) วิหารแห่งนี้เป็นที่ประทับของ คาร์ดินัลฆอร์เก้ มาริโอ้ แบร์กอกลิโอ หรือ พระสันตะปาปาฟรานซิสที่ 1 แห่งคริสตจักร ก่อนที่จะย้ายไปประทับที่วังวาติกัน
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 น. นำท่านไปชมย่าน San Telmo เป็นชุมชนเก่าแก่ที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ แหล่งรวมของศิลปะ หัตถกรรมชาวพื้นเมืองและของโบราณ รวมไปถึงการแสดงพื้นเมืองและการดนตรี การเต้นรำจังหวะ Tango (แทงโก้) และความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวยามราตรี แวะชมแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือ แกลลอรี่แปซิฟิก สถาปัตยกรรมแบบบองมาเช่ในฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจุดที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพจิตรกรรมเพดานภายในโดมขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 450 ตร.กม. อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งร้านขายสินค้ากว่า 150 ร้าน ในพื้นที่กว่า 11,000 ตร.ม.
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมการเต้นแทงโก้ ศิลปะการเต้นรำนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวอาร์เจนตินา ที่ท่านไม่ควรพลาดชม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and
CONVENTION CENTER หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day12
บัวโนสไอเรส – บินสู่เอล คาลาฟาเต (El Calafate) – ปาตาโกเนีย
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.15 น. ออกเดินทางสู่เอล คาลาฟาเต โดยสายการบิน Aerolíneas Argentinas โดยเที่ยวบินที่ AR1872 (Boeing 737-800)
13.00 น. ถึงสนามบินเมืองเอล คาลาฟาเต (El Calafate) ในเขตจังหวัดซานตาครูซ ในเขตที่ราบสูง รถโค้ชรอรับคณะและเดินทางสู่ภัตตาคาร
14.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ปาตาโกเนีย (Patagonia) เป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศอาร์เจนตินาและชิลี นักสำรวจให้สมญานามว่า ดินแดนแชงกรีลาแห่งอเมริกาใต้ ที่ที่เชื่อกันว่าผู้คนมีความสุข มีชีวิตยืนยาว มีธรรมชาติที่สวยงามน่าอัศจรรย์ใจ กล่าวได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆแห่งนี้ เอล คาลาฟาเต เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมฝั่งด้านใต้ของทะเลสาบอาร์เจนติโน โอบล้อมด้านที่เหลือด้วยทุ่งหญ้า และเทือกเขาสูงใหญ่ สองฟากฝั่งของถนนสายหลักในหมู่บ้าน เรียงรายไปด้วยโรงแรม ร้านขายของที่ระลึก และบริษัทท่องเที่ยว หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองหน้าด่านในการเข้าไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติลอส กลาซิอาเรส (Parque Nacional Los Glaciares) บนเนินเขาเล็ก ๆ ด้านตะวันตกเป็นย่านที่อยู่ของชาวอินเดียนเผ่าอลากาลุฟ (Alacaluf) ถัดจากเนินเขา เป็นท้องทุ่งกว้างที่ทอดตัวยาว ไปจนจรดเทือกเขาสูงตระหง่าน เป็นที่ที่เกาโช (Gaucho) โคบาลแห่งทวีปอเมริกาใต้ หรือวีรบุรุษนักบุกเบิกแห่งอาร์เจนตินา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALTO CALAFATE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day13
อุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็งลอส กลาซิอาเรส – ธารน้ำแข็งเปริโต โมเรโน่
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านสู่เขตอุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็ง ลอส กลาซิอาเรส (Los Glaciares) แห่ง Patagonia มีพื้นที่ราว 6.000 ตร.กม. หรือมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๒ ของประเทศ ที่นักท่องเที่ยวอยากไปเยือนมากที่สุด สวยมหัศจรรย์จน UNESCO ยกให้เป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ. 1981 นำคณะไปชมธารน้ำแข็งโมเรโน มีจุดกำเนิดอยู่บนยอดเขาที่ห่างออกไปถึง 20 ก.ม. บริเวณส่วนปลายมีความกว้างถึง 5 ก.ม. สูงจากผิวน้ำ 74 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ธารน้ำแข็ง 1,600 ตร.กม. ทำให้มันถูกจัดเป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดในซีกโลกใต้ สิ่งที่โดดเด่นคือ ภูเขาน้ำแข็งอันงดงามตระการตา ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาคล้ายกำแพงสีขาว ท่านสามารถเดินชมธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิดตามใจปารถนาด้วยทางเดินไม้ที่ทอดตัวไปรอบป่าสน จนไปสิ้นสุดบริเวณหน้าผา ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับธารน้ำแข็ง ตลอดเวลาจะได้ยินเสียงดังราวเสียงระเบิดกึกก้อง เมื่อก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกตัวตกลงสู่ผืนน้ำ “ไวท์ ไจแอนท์” แห่งอาร์เจนตินา ชื่อเรียกธารน้ำแข็งแห่งนี้เกิดการพังทลาย แนวน้ำแข็งขนาดมหึมาของโลก เป็นการส่งสัญญาณถึงสถานการณ์โลกร้อนที่ กำลังเข้าขั้นรุนแรง
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย กิจกรรมที่ท่านรอคอยเมื่อมาเยือนปาตาโกเนีย คือ การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง ตื่นตาตื่นใจกับการได้เข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับธารน้ำแข็ง ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากทวีปแอนตาร์กติกา และอลาสกา เป็นประสบการณ์อันแสนประทับ ใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALTO CALAFATE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day14
เอล กาลาฟาเต – เปอร์โต บานเดอร่า – ล่องเรือชมธารน้ำแข็งอัปซาลา
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเปอร์โต บานเดอร่า (Puerto Bandera Pier) อยู่ในจังหวัดซานตาครูซ เพื่อทำกิจกรรมที่ท่านรอคอยเมื่อมาเยือนปาตาโกเนีย คือ การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง เรือ Catamaran อันทันสมัยนำท่านสู่ตอนเหนือของ Lake Argentino ตื่นตาตื่นใจกับการได้เข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับธารน้ำแข็ง ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอเมริกาใต้ อยู่ใน Los Glaciares National Park อาร์เจนตินา ท่านจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ธารน้ำแข็งโดดเด่นตั้งอยู่ด้านหน้าขนาดมหึมา เรือจะนำท่านเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดแบบพาโนรามาของวิว Upsala Glacier, Spegazzini Glacier และ Seco Glacier ประสบการณ์อันแสนประทับใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบกล่อง
15.30 น. คณะเดินทางกลับถึงเอล กาลาฟาเต
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALTO CALAFATE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day15
เอล กาลาฟาเต – บินกลับสู่บัวโนสไอเรส
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำคณะออกเดินทางสู่สนามบิน เอล กาลาฟาเต เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่บัวโนสไอเรส
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
14.20 น. ออกเดินทางสู่บัวโนสไอเรส โดยสายการบิน Aerolíneas Argentinas โดยเที่ยวบินที่ AR1821 (Boeing 737-800)
17.15 น. ถึงสนามบิน Aeroparque Internacional Jorge Newbery กรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงที่ผสมผสานวัฒนธรรมใหม่และเก่าได้อย่างลงตัว และได้รับวัฒนธรรมยุโรปมาอย่างมากมาย จึงถูกเรียกว่า “ปารีสใต้” หรือ “ปารีสแห่งอเมริกาใต้” เมืองนี้เป็นเมืองสมัยใหม่ที่สุดแห่งหนึ่งในลาตินอเมริกา โดยมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม ชีวิตกลางคืน และกิจกรรมทางวัฒนธรรม บัวโนสไอเรส คือ สุดยอดเมืองสุนทรีย์แห่งลาตินอเมริกา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and
CONVENTION CENTER 4* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
Day16
บัวโนส ไอเรส – อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย – เดินทางสู่สนามบิน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. หลังอาหาร แวะชมแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือ แกลลอรี่แปซิฟิก สถาปัตยกรรมแบบบองมาเช่ในฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจุดที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพจิตรกรรมเพดานภายในโดมขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 450 ตร.กม. อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งร้านขายสินค้ากว่า 150 ร้าน ในพื้นที่กว่า 11,000 ตร.ม.
11.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติมินิสโตร ปิสตารินี เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
14.50 น. สายการบินแอร์ฟรานซ์ ออกเดินทางสู่มหานครปารีส โดยเที่ยวบินที่
AF229
Day17
สนามบินชาร์ล เดอร์ โกลด์ (ปารีส) – รอเปลี่ยนเที่ยวบิน
08.00 น. ถึงสนามบินชาร์ล เดอร์ โกลด์ (ประเทศฝรั่งเศส) เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน
***สำหรับท่านที่ต้องการออกไปข้างนอกสนามบิน ผู้โดยสารจำเป็นต้องมีวีซ่าเชงเก้นที่มีอายุใช้งานได้อยู่ในเล่ม***
16.15 น. ออกเดินทางโดยสายการบินแอร์ฟรานซ์ โดยเที่ยวบินที่ AF166
Day18
สนามบินสุวรรณภูมิ
09.15 น. นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ