มุ่งหน้าสู่ดินแดนอันไกลโพ้น เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันล้ำค่า เพิ่มความอิ่มเอมใจให้กับชีวิต โดยการอยู่เคียงข้างธรรมชาติอันงดงาม ทั้งผืนดินอันมีเอกลักษณ์ ผืนน้ำแห่งความชุ่มฉ่ำ กระแสลมแห่งความพลิ้วไหว และไฟประทุจากพื้นพิภพ ทั้งหมดนี้ คือความลงตัวในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกับปรากฎการณ์ที่ต้องเห็นก่อนตายกับ “แสงเหนือ” เพราะที่นี่คือไอซ์แลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์

Day1

นัดพบเพื่อทำการเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

21.30 น. นัดหมายคณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ D ชั้น 4 (ประตู 2) โดยมีเจ้าหน้าที่สิริ ทัวร์เซ็นเตอร์คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน

Day2

กรุงเทพฯ – นอร์เวย์ – เคฟลาวิก – เรคยาวิก

เดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG954 เวลา 00.55 – 07.25 น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศนอร์เวย์) เพื่อเดินทางไปท่าอากาศยานออสโล การ์เดอร์มอน ประเทศนอร์เวย์ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เมื่อได้สัมภาระเรียบร้อย จากนั้นคณะเดินทางด้วยรถโค้ชปรับอากาศเข้าสู่เมืองออสโล ผ่านชมปราสาทอเคอร์ฮุส (Akurshus) สถาปัตยกรรมเก่าแก่ในยุคเรอเนสซองส์ รัฐสภานอร์เวย์ และแวะถ่ายภาพกับศาลาว่าการเมืองออสโล ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่จัดงานพิธีมอบรางวัลโนเบลในสาขาสันติภาพประจำทุกปีอีกด้วย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางไปยังท่าอากาศยานออสโล การ์เดอร์มอน เพื่อเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI319 เวลา 14.45 – 15.25 น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศไอซ์แลนด์) เมื่อได้สัมภาระเรียบร้อย จากนั้นคณะเดินทางด้วยรถโค้ชปรับอากาศเข้าสู่เมืองเรคยาวิก เพื่อเยี่ยมชมความงามของเมืองหลวงแห่งไอซ์แลนด์ โดยเริ่มที่เข้าชมโบสถ์ประจำเมือง “ฮัลล์กริมสเคิร์กยา” (Hallgrimskirkja) ถือได้ว่าเป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความสูงที่สุดในไอซ์แลนด์ ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมเพลสชั่นนิสต์ ลักษณะโบสถ์มีความแปลกตา และบ้านฮอฟดิเฮ้าส์ (Hofdi Haus) บ้านเล็กกะทัดรัดแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของไอซ์แลนด์

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

**เมื่อได้เวลาอันสมควร เริ่มปฏิบัติการล่าแสงเหนือ**

Day3

ล่องเรือชมวาฬ – เคิร์กจูเฟล

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านร่วมสนุกกับกิจกรรมล่องเรือชมวาฬ (ประมาณ 3 ชม.) ถือเป็นกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ซึ่งถ้าหากใครมาไอซ์แลนด์แล้ว จะต้องเปิดประสบการณ์ไปกับกิจกรรมนี้ โดยมีชาวประมงท้องถิ่นที่ผันตัวมาทำกิจการด้านการท่องเที่ยวเป็นผู้ให้บริการ ซึ่งเมื่อท่านออกเรือไปแล้ว ท่านจะได้พบกับสัตว์น้ำมากมาย อาทิ แมวน้ำ นก โลมา และวาฬ ที่อยู่กันตามธรรมชาติ โดยวาฬยอดนิยมที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ได้แก่ วาฬมิ้งค์ ซึ่งเป็นวาฬท้องถิ่น รวมไปถึง วาฬเพชฌฆาต วาฬหลังค่อม และอื่น ๆ เกือบ 20 สายพันธุ์อีกด้วย

หมายเหตุ : การทำกิจกรรมล่องเรือชมวาฬนั้น หากมีสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยจะทำให้เรือไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนี้ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าใช้จ่าย เนื่องจากทางบริษัทได้ทำการจ่ายเงินจองล่วงหน้าแล้ว

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่คาบสมุทร “สไนเฟลเนส” (Snæfellsnes peninsula) โดยระหว่างทางท่านจะพบกับธรรมชาติที่สวยงาม โดยมีภูเขา แม่น้ำ ทะเล ตัดสลับไปมาอยู่ระหว่างสองข้างทาง ซึ่งคณะจะเดินทางไปชมและถ่ายภาพกับวิวภูเขาที่สวยงามที่สุดของไอซ์แลนด์ โดยเรียกภูเขานี้ว่า “เคิร์กจูเฟล” (Kirkjufell) โดยเรียกว่าเป็นวิวยอดนิยมหรือวิวเงินล้านเลยก็ว่าได้

รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม

**เมื่อได้เวลาอันสมควร เริ่มปฏิบัติการล่าแสงเหนือ**

Day4

บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ – น้ำตกเฮินฟอซซ่า – วงแหวนทองคำ

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางไปยังเมืองเรคฮอลท์ (Reykholt)(132 ก.ม.) เมืองทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ นำชมบ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver Thermal Spring) เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ มีอุณหภูมิน้ำสูงสุดถึง 97 องศาเซลเซียส และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีน้ำไหลเร็วที่สุดในยุโรป

จากนั้นนำท่านชมความสวยงามของน้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfalls) เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากลำธารมีความยาวกว่า 900 เมตร ซึ่งพาดอยู่บนทุ่งลาวาที่ปะทุขึ้นมาจากภูเขาไฟใต้พิภพ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่การเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่า “วงแหวนทองคำ” (Golden Circle) (132 ก.ม.) เป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นบนโลกที่สวยงามแปลกตา ซึ่งมี 3 สถานที่ท่องเที่ยวประกอบกัน โดยเริ่มต้นที่อุทยานแห่งชาติซิงเกวนลี (Thingvellir) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก โดยสถานที่นี้มีจุดเด่นอยู่ที่พื้นแผ่นดิน ถือว่าเป็นจุดที่ท่านสามารถชมแผ่นเปลือกโลกที่เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือได้อย่างชัดเจน

นำท่านชมน้ำพุร้อนเกร์เซอร์ (Geyser) น้ำพุร้อนที่มีพลังงานจากความร้อนใต้พิภพ มักจะระเบิดขึ้นมาทุก 5 – 10 นาที มีความสูงถึง 20 เมตร บริเวณใกล้เคียงจะมีน้ำตกกูลล์ฟอส (Gullfoss) ชมความงดงามของน้ำตกทองคำ เนื่องจากเมื่อละอองน้ำปะทะกับแสงแดดแล้วจะสะท้อนแวววาวออกมาเป็นสีเหลืองทองอร่าม

รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม

**เมื่อได้เวลาอันสมควร เริ่มปฏิบัติการล่าแสงเหนือ**

Day5

ขับรถสโนว์โมบิล – น้ำตกสโกการ์ฟอส – เคล้าส์เตอร์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ไมล์เดลโจกุล (Mýrdalsjökull) เพื่อทำกิจกรรมที่สนุกสนาน ตื่นเต้นที่สุดของไอซ์แลนด์กับการขับรถสโนว์โมบิล (Snowmobile) โดยถือเป็นกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยหากมาเที่ยวไอซ์แลนด์ โดยเราจะต้องทำการเปลี่ยนชุดให้พร้อมกับการผจญภัย (มีชุดและอุปกรณ์ให้) และจากนั้นเราจะนั่งรถขึ้นไปบนภูเขา เพื่อขับสโนว์โมบิลกันบนธารน้ำแข็ง ซึ่งถือว่ามีไม่กี่ที่บนโลก ทั้งสนุก ตื่นเต้น พร้อมเก็บภาพความประทับใจของกิจกรรม

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเดินทางเยี่ยมชมน้ำตกสโกการ์ฟอส (Skogarfoss) ที่มีความสูงถึง 62 เมตร ถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ อิสระถ่ายภาพความประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกที่เป็นธรรมชาติโอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวาดูแปลกตาเป็นอย่างยิ่ง

รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม

**เมื่อได้เวลาอันสมควร เริ่มปฏิบัติการล่าแสงเหนือ**

Day6

ถ้ำคริสตัล / ธารน้ำแข็งสกาฟตาเฟล – โจกุลซาลอน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ชมถ้ำคริสตัล (Crystal Cave) เป็นถ้ำในทะเลสาบแช่แข็งที่เกิดจากธารน้ำแข็ง สวีนาเฟลล์โจกุล (Svinafellsjokull Glacier) โดยถ้ำแห่งนี้มีปากถ้ำที่เป็นปล่องน้ำแข็งสูงประมาณ 22 ฟุต การเข้าไปชมความงดงามของถ้ำน้ำแข็ง จึงสามารถทำได้แค่ในช่วงฤดูหนาว ความความโดดเด่นของถ้ำแห่งนี้ก็คือ ผนังน้ำแข็งคือก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนเหมือนกับก้อนคริสตัล ที่สามารถมองเห็นได้ภายใต้ผนังถ้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนเราท่องไปในดินแดนพิศวง และไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงในโลกนี้

(ขอสงวนสิทธิ์เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ในการเข้าชม)

**ทั้งนี้การเข้าไปชมถ้ำจะเปิดในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น **

หากถ้ำน้ำแข็งไม่สามารถเข้าชมได้ทางเราขอนำเสนอ

กิจกรรม Walk on Glacier เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด กับบรรยากาศความสวยงามของธารน้ำแข็ง โดยเราจะต้องทำการเปลี่ยนชุดให้พร้อมกับการผจญภัย (มีอุปกรณ์ให้) พร้อมสนุก ตื่นเต้น เก็บภาพความประทับใจของกิจกรรมนี้อย่างไม่รู้ลืม

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางต่อไปยังทะเลสาบน้ำแข็ง “โจกุลซาลอน” (Jökulsárlón) โดยถือเป็นทะเลสาบน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ โดยเกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งวัตนาโจกุล ถือเป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมทะเลสาบโจกุลซาลอน และบริเวณหาดทรายเพชร โดยบริเวณหาดทรายเพชรนี้ มักจะมีก้อนน้ำแข็งลอยมาเกยตื้นอยู่เป็นจำนวนมาก เหมาะแก่การถ่ายภาพและเยี่ยมชมความแปลกของก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ (Iceberg) ที่หลุดและลอยอยู่ในทะเลสาบอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม

**เมื่อได้เวลาอันสมควร เริ่มปฏิบัติการล่าแสงเหนือ**

Day7

วิค – ชายหาดสีดำ – เซลยาแลนฟอส – บูลลากูน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

เดินทางไปยังหมู่บ้านวิค (Vik) หมู่บ้านที่อยู่ติดริมทะเล นำท่านชมชายหาดสีดำ เอกลักษณ์ของเมืองวิค เพื่อเก็บภาพเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีปรากฎการณ์แท่งหินประหลาดที่โผล่มาเหนือพื้นดินที่เกิดจากการเย็นตัวลงอย่างเฉียบพลันของลาวากลายเป็นแท่งหินบะซอลต์ จากนั้นเดินทางไปยังเมืองเซลฟอส โดยระหว่างทางนั้นจะผ่านน้ำตก 2 แห่ง คือ น้ำตกสโกกาฟอส และเซลยาแลนฟอส ถือเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีความแปลกตาที่สุด แวะถ่ายภาพเก็บความประทับใจ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางไปยังเซลยาแลนฟอส (Seljalansfoss) ถือเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีความแปลกตาที่สุด ท่านจะได้พบต้นหญ้าและมอสสีเขียวที่ขึ้นโอบล้อมน้ำตก อีกทั้งยังมีดอกไม้หลากหลายสีสัน ทั้งสีเหลือง และสีม่วง ท่านยังสามารถเดินไปบริเวณด้านหลังน้ำตกได้อีกด้วย

เดินทางต่อไปยังรีสอร์ทบลูลากูน เพื่อทำกิจกรรมแช่น้ำแร่ โดยเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงหากมาที่ ไอซ์แลนด์ เพราะเป็นที่ที่คนทั่วโลกต่างอยากเดินทางมาแช่น้ำแร่ที่นี่ ซึ่งน้ำแร่ที่นี่มีลักษณะพิเศษที่มีที่เดียวในโลก ทั้งสนุกสนานเพลิดเพลิน ผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำ (มีผ้าเช็ดตัวเตรียมให้) เป็นอันจบกิจกรรมการเดินทางได้อย่างสุดแสนประทับใจ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

**เมื่อได้เวลาอันสมควร เริ่มปฏิบัติการล่าแสงเหนือ**

Day8

เคฟลาวิก – โคเปนเฮเกน

รับประทานอาหารเช้า (Box Set)

นำท่านเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก เพื่อเดินทางไปยังเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI204 เวลา 07.45-12.45 น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศเดนมาร์ก) เมื่อได้สัมภาระเรียบร้อย จากนั้นคณะเดินทางด้วยรถโค้ชปรับอากาศ

(ไม่มีอาหารกลางวัน เนื่องจากเวลาดังกล่าวคือช่วงเวลาที่มีการบิน)

จากนั้นอิสระช้อปปิ้งย่านถนนคนเดิน “สตรอเก็ท“ โดยถือเป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักที่มีชื่อเสียง มีสินค้า        แบรนด์แนมต่าง ๆ มากมาย เช่น ห้างสรรพสินค้าอิลลุม ร้านนาฬิกา หลุยส์ วิตตอง แอร์เมส H&M ZARA เป็นต้น

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

Day9

โคเปนเฮเกน – กรุงเทพมหานคร

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

เยี่ยมชมความงดงามของเมืองโคเปนเฮเกน เมืองหลวงแห่งเดนมาร์ก โดยถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มด้วยอนุสาวรีย์นางเงือกน้อย (Little mermaid) น้ำพุเกฟิออน และพระราชวังอมาเลนบอร์ก โดยล้วนแต่เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเดนมาร์กทั้งสิ้น

เมื่อได้เวลาอันสมควร เดินทางสู่ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน เพื่อทำการเช็คอิน การคืนภาษีสำหรับการช้อปปิ้ง และเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951 เวลา 13.50 – 06.20      (+1) น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศไทย)

Day10

โคเปนเฮเกน – กรุงเทพมหานคร

เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ เวลา 06.20 น. (ณ เวลาท้องถิ่นประเทศไทย)

“ขอขอบพระคุณสาหรับความสนใจ และความไว้วางใจในการร่วมเดินทางไปเปิดประสบการณ์กับเรา แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางในภาคต่อไป ขอบคุณครับ/ค่ะ”